หาความก้าวหน้ากับงานที่รัก ด้วย 5 เคล็ดลับง่าย ๆ
ใคร ๆ ต่างก็เคยพูดว่าชีวิตวัยเรียนนั้นสนุก และมีความสุขมากที่สุด แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครที่จะหยุดเวลาไว้ตรงนั้นได้ และเมื่อเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว ต่อไปเราทุกคนก็จะเริ่มเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการทำงานจริง ๆ กันซักที ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบทเรียนและบททดสอบที่จะทำให้เราได้รู้ว่า สิ่งที่เราเรียนมานั้น สามารถนำมาปรับใช้กับการทำงานได้อย่างไรบ้าง? บางคนอาจจะงงในช่วงแรกของการทำงาน อาจจะทำงานไม่ทันบ้างล่ะ งานล้นมือจนเกินไป โดยทุก ๆ สถานการณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเจอะเจอกันอย่างแน่นอน ถ้าใครที่กำลังตกอยู่ในสถานณ์แบบนี้ก็อย่าเพิ่งท้อ หรือเบื่อหน่ายกันนะคะ เรามี 5 วิธีในการกำจัดปัญหาเหล่านี้ให้ออกไปจากคุณมาบอกกันค่ะ
ทำงานยังไงให้มีความก้าวหน้า !
- ทำสมาธิก่อนเริ่มทำงานทุกครั้ง
เมื่อมาถึงวันทำงานจริง สิ่งแรกที่น้อง ๆ หลายคนมักจะเป็นก็คือ จะเกิดความรู้สึกกลัวไป ลุกลี้ลุกลน ทำตัวไม่ถูก สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง และเราจะต้องควบคุมความกลัวเหล่านั้นให้ได้ ดังนั้น ถ้าไม่อยากมีอาการแบบนี้ก็จะต้องหาเวลาสัก 5 นาทีก่อนเข้าทำงาน มานั่งทำจิตใจให้สงบ ทำสมาธิและรวบรวมสติให้ดี และคิดแต่เรื่องที่ดี ที่มีความสุข แค่นี้ก็จะช่วยทำให้เรามีความสุขกับการทำงานได้แล้ว
- เวลาทำงาน ก็คือต้องทำงาน
ในระหว่างเวลาของการทำงาน เราก็ควรที่จะตั้งใจทำงาน ไม่ใช่เล่นไปด้วยทำงานไปด้วย เหมือนกับตอนเรียน ถ้าเราทำแบบนั้นอาจจะทำให้เราทำงานออกมาไม่ดี หรือทำงานไม่เสร็จตามที่ได้รับมอบหมาย เพราะว่าเราไม่มีสมาธิในการทำงานย่อมส่งผลทำให้งานที่ออกมานั้นไม่ดีตามที่ควร หรืออาจจะเกิดข้อผิดพลาดที่ทำให้เราต้องโดยตำหนิได้ ดังนั้นในช่วงเวลาของการทำงานเราควรที่จะมีสมาธิ มีความรอบคอบ ให้ได้มากที่สุด
- เปิดวิสัยทัศน์กว้างรับฟังคำวิจารณ์
การทำงานกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นสิ่งที่คู่กัน แต่หลายคนอาจจะสติหลุดได้เพียงเพราะถูกวิจารณ์ในสิ่งที่เราไม่ชอบ หรือไม่เห็นด้วย ดังนั้นควรท่องให้ขึ้นใจเลยว่า เราเอาปัญญาออกหน้า หรืออารมณ์ออกหน้า หากเอาปัญญาออกหน้าจะเกิดคำถามในใจว่า “เราทำผิดพลาดตรงไหน” แต่ถ้าหากเราเอาอารมณ์มานำหน้า ก็จะทำให้เราคิดว่า “แกทำให้ฉันเสียหน้า” สุดท้ายผลที่ตามมาก็จะทำให้เรามีความทุกข์
- อย่าไปสนใจคำนินทา
ไม่ว่าเราจะไปอยู่ในสถานที่ใดก็ตาม ต้องเคยเจอปัญหาที่โดนคนอื่นนินทากันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งถ้าเป็นเรื่องดีก็คงไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ดีหรือเป็นเรื่องที่ไม่จริง ก็ทำให้หลายๆ คนอารมณ์เสียได้ ยิ่งถ้าเราทำงานในบริษัท หรือองค์กรใหญ่ ๆ แล้วล่ะก็จะพบเจอกับผู้คนมากมาย ร้อยพ่อพันแม่กันเลยเชียว อย่างเช่น งานโรงแรมระดับ 5 ดาว สถานโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ทางที่ดีที่สุด ถึงแม้ว่าเราจะห้ามคนไม่ให้นินทาเราไม่ได้ แต่เราก็สามารถห้ามใจไม่ให้คิดตามจนจิตตกได้ และหนึ่งในวิธีที่ได้ผลดีมากก็คือ การมองโลกในแง่ดี คิดเสียว่าที่เขานินทาคือการเตือนเราทางอ้อมให้เราได้ปรับปรุงตัว ในเรื่องที่ยังมีข้อบกพร่องอยู่ เวลาที่เราได้ยินเสียงนินทาให้ถือเสียว่าเป็นระฆังแห่งสติที่จะเตือนให้เราหันกลับมามองตัวเอง สิ่งไหนจริงก็ปรับปรุงแก้ไข สิ่งไหนไม่จริงก็ปล่อยให้ผ่านไปที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องคิด พูด และทำแต่สิ่งดี ๆ เพื่อจะได้ไม่หวั่นไหวไปกับคำนินทาไม่เป็นความจริง
- คิดเสมอว่างานคือ“ข้อสอบ”ที่เราต้องฝึกฝนอยู่ตลอด
จริงอยู่ว่าในการทำงานย่อมมีอารมณ์ที่หลากหลายเข้ามาปะทะอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ดีใจ เสียใจ โกรธ โมโห อิจฉา ซึ่งอารมณ์เหล่านี้มีผลเสียต่อเราหมด ตรงกันข้ามอารมณ์หลากหลายที่เราต้องเผชิญในที่ทำงานคือ บททดสอบที่ดี ที่จะช่วยทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาได้อย่างรอบครอบ มีสติ ดังนั้นขอให้ใช้บททดสอบเหล่านี้ดูว่าเราสามารถควบคุมอารมณ์ไม่ให้วูบวาบไปตามสิ่งที่มากระทบ และเรียกสติมาช่วยได้ทันหรือไม่ หากเผลอก็ถือว่าสอบตก ต้องทำการแก้ไขปรับปรุงและทำให้ดีกว่าเดิมในครั้งต่อไป
อย่าลืมนะคะว่าสิ่งที่สำคัญและเป็นหัวใจหลักของ การทำงาน ก็คือ การมีสติ เราจะต้องควบคุมสติให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรืออยู่ในสภาวะอารมณ์แบบไหนก็ตาม ถ้าหากเราควบคุมสติ ระงับความกลัว ความตื่นเต้นต่าง ๆ ได้นั้น ย่อมที่จะส่งผลให้การกระทำทุกอย่างของเราเป็นไปในทิศทางที่ดี ถ้าทำงาน ก็จะทำให้งานของเรามีประสิทธิภาพและทำให้เราและบริษัทประสบกับความสำเร็จได้อย่างแน่นอนนะค่ะ