การมองหางานในต่างประเทศที่มีความเจริญรุ่งเรืองกว่า เริ่มเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นตามความเปลี่ยนแปลงของโลกสมัยและความเจริญของเทคโนโลยี เนื่องจากการข้ามแดนทำงานต่างประเทศ จะได้รับการพัฒนาทักษะด้านภาษา ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า และได้รับประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับชาวต่างชาติอีกด้วย
จากการวิจัยล่าสุดพบว่า ในปี 2018 ประเทศสหรัฐอเมริกาถือว่าเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ส่วนประเทศที่ได้รับความนิยมรองลงมา คือประเทศเยอรมัน อย่างไรก็ตาม วันนี้ทางเว็บไซต์ Jobcuteมีบทความมาแนะนำ 6 อันดับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่คนส่วนใหญ่อยากไปทำงานมากที่สุด เราไปดูกันพร้อมๆเลยค่ะ
- ประเทศมาเลเซีย ในปี 2018 ประเทศมาเลเซีย ถือว่าเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้เดินทางไปทำงานเป็นลำดับที่ 33 ซึ่งชาวอินโดนีเซียต้องการเดินทางไปทำงานเป็นอันดับที่หนึ่ง และชาวสิงคโปร์ขยับมาเป็นอันดับที่สอง ตามด้วยชาวปากีสถานขยับเป็นอันดับที่สาม
- ประเทศอินโดนีเซีย ในปี 2018 ประเทศอินโดนีเซียถือว่าเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 51 และชาวมาเลฯนิยมไปทำงานมากที่สุด รองลงมาคือชาวสิงคโปร์และตามด้วยชาวญี่ปุ่น
- ประเทศเวียดนาม จัดว่าเป็นประเทศที่อยู่ในอันดับที่ 55 ที่ได้รับความนิยมในการทำงาน และเป็นประเทศที่คนไทยไปทำงานมากที่สุดเป็นอันดับที่หนึ่ง ตามด้วยชาวสิงคโปร์และเกาหลีใต้รองลงมา
- ประเทศฟิลิปปินส์ ถือว่าเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ในอันดับที่ 66 โดยมีประชากรจากหลายประเทศ เช่น ประชากรจากเกาหลีใต้ อินโดนีเซีย และกาตาร์
เคยสงสัยมั้ยคะว่า ทำไมผู้คนส่วนใหญ่ชอบทำงานในต่างประเทศมากกว่าในประเทศของตนเอง ซึ่งจากงานวิจัยได้เผยเหตุผลว่าทำไมคนส่วนใหญ่ต่างนิยมต่างประเทศเป็นจำนวนมาก เนื่องจากโอกาสในการได้งานที่ดีกว่า การหาประสบการณ์การทำงานใหม่ๆ และเปิดประสบการณ์ให้กว้างยิ่งขึ้น
ดังนั้น HR ควรใช้เหตุผลดังกล่าวข้างต้นในการสร้างการรับรู้ขององค์กรแก่ผู้หางาน เพื่อช่วยดึงดูดให้พนักงานเข้ามาสมัครมากขึ้น
- สวัสดิการ
หากองค์กรไหนอยากได้คนเก่งๆจากทั่วโลกเข้ามาทำงาน ดังนั้นสวัสดิการที่พิเศษจึงเป็นสิ่งที่ช่วยดึงดูดให้พนักงานเก่งๆเข้ามาร่วมงานกันได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น วันหยุดพักร้อน สวัสดิการท่องเที่ยวเพื่อช่วยให้พนักงานได้กลับบ้านได้บ่อยมากขึ้น ตลอดจนการเปิดสอนภาษาที่ประเทศนั้นใช้งานแก่ผู้สมัครชาวต่างชาติ ย่อมช่วยดึงดูดให้คนมาสมัครงานได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเหตุผลในการเลือกทำงานในต่างประเทศ นั่นคือ การค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ ดังนั้น องค์กรควรให้โอกาสให้สามารถทำงานแบบเลือกเวลาทำงานได้ เพื่อช่วยให้พนักงานสามารถสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตกับการทำงานได้ดียิ่งขึ้น
- สร้างความเท่าเทียมและส่งเสริมการมีส่วนร่วม
เมื่อต้องไปทำงานต่างประเทศแล้ว หลายคนมักจะกังวลว่าจะได้รับการปฏิบัติเท่าเทียมกับพนักงานคนอื่นๆหรือไม่ เนื่องจากมีความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นด้านสัญชาติ ภาษา และวัฒนธรรม ดังนั้นองค์กรควรมีนโยบายและกฎระเบียบต่างๆเพื่อสร้างความมั่นใจแก่พนักงานชาวต่างชาติว่าได้รับความเท่าเทียมกันเหมือนกับพนักงานคนอื่นๆ
นอกจากนี้ สิ่งที่องค์กรควรมีคือ กิจกรรมความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมสันทนาการต่างๆเพื่อละลายพฤติกรรมและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นการส่งเสริมในเรื่องการทำงานให้มีประสิทธิภาพในการทำงานออกมาดียิ่งขึ้น
- สร้างการรับรู้ให้ทั่วถึง
องค์กรไม่ควรลืมพิจารณาการออกบูธในมหกรรมแรงงานระดับชาติด้วย ซึ่งผู้ที่มองหางานตามประเทศนั้นๆย่อมพิจารณาถึงประเทศของคุณด้วย จะช่วยดึงดูดผู้คนที่กำลังจบการศึกษาหรือกำลังมองหางานอยู่โดยเฉพาะ และสามารถปรับความเข้าใจและช่วยกระตุ้นให้ผู้หางานชาวต่างชาติอยากร่วมงานกับบริษัทคุณยิ่งกว่าเดิม
ดังนั้นการแย่งชิงตัวผู้สมัครงานที่มีความสามารถทั่วโลกเริ่มเข้มข้นมากกว่าเดิม ทำให้การแข่งขันในระดับสากลย่อมต้องการทักษะและความสามารถจากผู้สมัครงานจากหลากหลายเชื้อชาติมากยิ่งขึ้น