วันนี้ทางแอดมิน JobCute ก็ได้มีข่าวในแวดวงของกลุ่มผู้ประกอบการต่าง ๆ มาฝากกันอีกเช่นเคยนะคะ จะเป็นข่าวอะไรนั้น ไปติดตามกันเลย
ในยุคปัจจุบันนี้คงจะหนีไม่พ้นสำหรับการติดต่อสื่อสารผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือเรียกว่า Smart Phone ซึ่งและก็เช่นกัน บริษัท ยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงทางด้านนี้เกี่ยวกับตลาดมือถืออย่าง Samsung ซัมซุงเองได้ออกมาแถลงและเปิดตัว สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูลกาแล็กซี่ เอ (Galaxy A)
นายดีเจ โกห์ ประธานธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัดนายดีเจ โกห์ ประธานธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ได้เปิดเผยว่า หลายปีที่ผ่านมา ถือได้ว่าตลาดมือถือเริ่มอิ่มตัวและซบเซาลง ไม่มีการเติบโต โดยเฉพาะมือถือระดับบน (Highend) ที่ความต้องการสินค้าประเภทนี้ลดลงอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม ทางซัมซุงเอง ก็ยังเชื่อว่า 5 จี ซึ่งจะเริ่มเปิดให้บริการในปีนี้เป็นปีแรกนั้น จะช่วยผลักดันทำให้ตลาดมือถือกลับมาคึกคักมากขึ้น
คราวนี้เรามาทำความเข้าใจกับคำว่า “5 จี” และ AI (Artificial Intelligence) หรือ ที่เรามักจะเรียกว่า “ปัญญาประดิษฐ์” เจ้าตัวนี้จะเข้ามามีบทบาทหลักในการขับเคลื่อนตลาดมือถือนับจากนี้ รวมทั้งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแวดวงตลาดมือถืออย่างใหญ่หลวง ซึ่งซัมซุงเองต่างก็หวังว่าจะเป็นโอกาสที่สำคัญ เพราะซัมซุงเองต่างก็มีสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม ทั้งเน็ตเวิร์ก ชิปเซต และมือถือ เรียกได้ว่ามีระบบนิเวศที่ครบวงจร”เลยทีเดียว
แต่ถ้าจะมองในแง่ของการแข่งขัน นายดีเจ โกห์ ก็ได้ยอมรับว่า ซัมซุงกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายจากมือถือค่ายจีน ซึ่งที่ผ่านมาทำผลงานได้ดี และสามารถตีตลาดมือถือได้ อีกทั้งยังสามารถที่จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า “ในฐานะคู่แข่ง อะไรที่แบรนด์จีนทำได้ดี ซัมซุงเองเราก็พร้อมจะศึกษาเพื่อพัฒนาและเอามาให้บริการ เพราะเชื่อว่าเราสามารถเรียนรู้จากคู่แข่งได้”
อย่างไรก็ตาม หากจะถามในแง่ของกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ ซัมซุงยึดหลักทำความเข้าใจผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด เพื่อนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการและยอมรับ ภายใต้แผนการดำเนินงานหรือโรดแม็ป (Roadmap) ของซัมซุง ซึ่งที่ผ่านมานั้น มีบทบาทอย่างมากต่อความสำเร็จในการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ ๆ
ประธานธุรกิจโทรคมนาคมของซัมซุงอธิบายเพิ่มเติมว่าเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ซัมซุงได้มีการคิดค้นเทคโนโลยีมือถือรุ่นหน้าจอพับได้ แต่เป็นการพับโดยที่เอาหน้าจอออกมา ไม่ตอบโจทย์ด้านความเป็นส่วนตัว จนในที่สุดก็ต้องทำการพัฒนาต่อไปให้เป็นจอพับแบบพับหน้าจอไว้ด้านใน และนี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ๆ ที่อาจไม่ได้รับการยอมรับหรือชื่นชม ถ้าหากไม่ถูกแก้ไขให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง
“โรดแม็ป (Roadmap) ของซัมซุงจึงไม่ใช่เรื่องของการใช้เทคโนโลยีใด เทคโนโลยีหนึ่งเท่านั้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นเทคโนโลยีในภาพรวม ที่ต้องผ่านการวิจัยและพัฒนาเพื่อให้ผู้บริโภคยอมรับ อยากที่จะใช้สินค้านั้น ไม่ใช่แค่ร้องว้าว! เพียงอย่างเดียว”
นายโกห์ ยังยกตัวอย่างถึงเทคโนโลยีกล้องหมุนได้ (Rotating Camera) ซึ่งถูกบรรจุอยู่ในสมาร์ทโฟนรุ่นกาแล็กซี่ เอ 80 ซึ่งเปิดตัวระดับโลกไปเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ณ กรุงเทพมหานคร ว่า 5 ปีที่แล้ว ซัมซุงยังไม่มีเทคโนโลยีที่สามารถหมุนกล้องหลังให้กลับมาถ่ายเป็นกล้องหน้าได้ จนมาถึงทุกวันนี้ ภายใต้โรดแม็ปของซัมซุงเองนั้น ก็สามารถที่จะนำเทคโนโลยีกล้องหมุนได้ ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในสมาร์ทโฟนกาแล็กซี่ เอ
หลักจากนี้จะมีการแข่งขันของซัมซุงกันอย่างดุเดือดนี้ จึงยึดอยู่กับโรดแม็ป ซึ่งเปรียบเสมือนคู่มือทางด้านธุรกิจนอกเหนือจากความพยายามในการเข้าใจและการเข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุด
ทั้งนี้ นายดีเจ โกห์ ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยและให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก่อนร่วมเปิดงาน “A Galaxy Event” ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองทองธานี กรุงเทพมหานคร เพื่อเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูลกาแล็กซี่ เอ (Galaxy A) ในระดับโลก อันประกอบด้วย รุ่น A80 และ A70 โดยไฮไลต์อยู่ที่ A80 ซึ่งมาพร้อมกับกล้องที่หมุนได้ครั้งแรกของซัมซุง (Rotating Camera) ทำให้ 3 กล้องหลังเป็น 3 กล้องหน้า ด้วยความละเอียดของภาพ 48 ล้านพิกเซล ภายในงานซัมซุงยังได้เปิดตัววง แบล็คพิ้งค์ กลุ่มนักร้องหญิงจากเกาหลี ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของกาแล็กซี่ A ทั้ง 2 รุ่นอีกด้วย
นายโกห์ กล่าวว่า ใน 2-3 ปีข้างหน้า คนในยุคมิลเลนเนียล หรือคนรุ่นใหม่ (เกิดระหว่างปี 2527-2539) จะกลายเป็นคนส่วนใหญ่และมีขนาดตลาดมากกว่า 50% ซัมซุงจึงตั้งใจใช้สมาร์ทโฟน กาแล็กซี่ A เป็นตัวเจาะตลาดคนกลุ่มนี้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและสังคมโซเชียล โดยถือเป็นครั้งแรกที่ซัมซุงเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่อย่างกล้องหมุนได้ในมือถือรุ่นที่ไม่ใช่รุ่นใหญ่ราคาแพง (แฟล็กชิป) แต่เลือกเปิดตัวในรุ่นกาแล็กซี่ A ซึ่งเป็นมือถือระดับกลาง นั่นก็เป็นเพราะว่าโทรศัพท์มือถือระดับกลางนั้นสามารถที่จะทำการตลาด และขายได้ดีกว่ามือถือระดับไฮเอนอย่างแน่นอนถ้าเปรียบเทียบกับตลาดมือถือที่กำลังซบเซาอยู่ขณะนี้
หลังจากที่ซัมซุงได้มีการเปิดตัวโทรศัพท์ในรุ่นกาแล็กซี่ A และมีราคาที่ไม่แพงนักซึ่งก็จะส่งผลดีให้กับ พนักงาน หรือประชาชนทั่ว ๆ ไปที่มีรายได้ระดับกลางก็สามารถที่จะจับจองเป็นเจ้าของได้แถมยังได้ใช้มือถือดีและมีคุณภาพอีกด้วย ทำให้เมื่อเราได้ไป ท่องเที่ยว ที่ไหนแล้วมีเจ้ามือถือจิ๋วนี้ไปด้วยก็สามารถที่จะเซลฟี่ เก็บภาพความทรงจำนั้นไว้ในมือถือของคุณได้ตลอดเวลา