หลังจากที่นักศึกษาได้สำเร็จการศึกษาจากรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว มีโลกอีกหนึ่งใบที่นักศึกษาพวกนี้ยังต้องค้นหา นั้นคือ โลกแห่งการทำงานอย่างจริงจัง และเข้มข้น และมักมีคำถามหนึ่งจากนักศึกษาเหล่านี้คือ จบแล้วเข้าทำงานที่ไหนดี ระหว่างบริษัทเล็ก หรือ บริษัทใหญ่ และบริษัทไหนดีกว่า อย่างไรก็ตามทาง Jobcute มีบทความมาให้ปูทางเพื่อเป็นทางเลือกหรือการตัดสินใจที่ดีกว่า

  1. หากเลือกทำงานในบริษัทใหญ่ มีชื่อสียง สวัสดิการที่ดี แต่ คุณอาจจะต้องการในตำแหน่งงานเล็กๆก่อน ที่เงินเดือนอาจจะน้อย ไม่เหมาะกับที่ได้เรียนมา และกว่าจะเลื่อนตำแหน่งก็อาจจะใช้เวลานานนิดนึง
  2. หากทำงานในบริษัทเล็ก หรือไม่ค่อยมีชื่อเสียงมากนัก ซึ่งอาจจะทำให้ได้เงินมากกว่าการทำงานบริษัทใหญ่ อีกทั้งยังสามารถเติบโตในสายงานได้เร็วกว่า อย่างไรก็ตาม อาจจะมีความเสี่ยงในการตกงานเพราะกิจการอาจจะไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่นัก

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองตัวเลือกนี้ย่อมมีข้อดีและข้อเสียต่างกันที่ต้องเลือกและชั่งใจว่าจะเข้าองค์กรไหน องค์กรเล็ก หรือองค์กรใหญ่กว่า แน่นอนอยู่แล้ว เราต้องพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วน วิเคราะห์ แยกแยะ และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับอนาคตได้เป็นอย่างดี

ข้อดีของการทำงานบริษัทใหญ่

  • สามารถยกระดับตัวเองให้ดี การทำงานในองค์กรใหญ่ๆ สามารถสร้างโปรไฟล์ที่ดี เพราะว่า ใครๆก็รู้จักองค์กรเป็นอย่างดี อาจจะทำให้ประวัติการทำงานของเราดีอีกด้วย และอาจจะได้รับโอกาสในการเรียนรู้งานจากองค์กรใหญ่ๆ เป็นต้น
  • มีความมั่นคง เนื่องจากองค์ใหญ่มีความมั่นคง ทำให้โอกาสการปลดพนักงานนั้นมีน้อยมาก เพราะองค์กรนั้นต้องการจำนวนพนักงานมากมาย และอาจจะเปิดรับพนักงานได้ตลอดเวลา
  • เงินเดือนที่มั่นคง เงินเดือนและสวัสดิการในองค์กรใหญ่ ย่อมได้มาตราฐานนระดับสากล ที่มีการกำหนดเงินเดือนเริ่มต้น และมีการจ่ายเงินโบนัสอีกด้วย
  • สังคมที่กว้างขึ้น การเข้าทำงานในองค์กรใหญ่ๆ ทำให้ได้สังคมใหม่ๆ และรู้จักคนในหลากหลายหน้าที่ นอกจากนี้ ยังช่วยสร้าง connection ที่ดีอีกด้วย
  • ก้าวหน้าในสายงานที่รับผิดชอบ องค์กรใหญ่ได้กำหนดขอบเขตงานที่ชัดเจน และเมื่อถึงเวลาก็อาจจะได้โอกาสในการเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้นกว่าเดิม

ความท้าทายในการทำงานในองค์กรใหญ่

  • กฎระเบียบ การทำงานในองค์กรใหญ่ๆนั้น ย่อมมีกฎระเบียบ และกฎเกณฑ์ต่างๆมากมาย ทำให้การทำงานยืดหยุ่นน้อยกว่า
  • การแข่งขันในการทำงาน ด้วยจำนวนของพนักงานในองค์กรใหญ่มีจำนวนมาก ต่างคนต่างก็อยากได้ตำแหน่งงานที่ดี จึงมีการแข่งขันขึ้นมา สร้างตัวเองให้โดดเด่น ทำให้บรรยากาศในการทำงานไม่ค่อยอบอุ่นมากเท่าไหร่นัก
  • ทำงานไม่หลากหลาย การทำงานในองค์กรใหญ่มีการแบ่งความรับผิดชอบงาน หรือขอบเขตงานอย่างชัดเจน ซึ่งต่างไปจากการทำงานในองค์กรเล็กๆ ที่สามารถทำงานได้หลากหลาย ซึ่งทำให้ความรอบรู้ในเรื่องการทำงานในองค์ดีไม่เท่าคนที่ทำงานในองค์กรเล็กกว่า

ข้อดีในการทำงานบริษัทเล็ก

  • งานรองรับเยอะกว่า เนื่องจากบริษัทเล็กมีงานเปิดรับเป็นจำนวนมาก หากผู้สมัครงานไม่เลือกงาน ก็ได้งานอย่างไม่ยาก
  • ทำงานหลากหลาย เนื่องด้วยบริษัทเล็กๆมีพนักงานจำนวนไม่มาก ทำให้พนักงานคนเดียวทำหน้าที่ควบคู่กันในหลายตำแหน่ง ไม่ทำงานของตัวเองเพียงแค่ตำแหน่งเดียวเท่านั้น
  • บรรยากาศความเป็นครอบครัว เนื่องด้วยบริษัทเล็ก พนักงานแต่ละคนต้องช่วยเหลือ เกื้อกูลกัน มักทำให้บรรยากาศในสถานที่ทำงานนั้นดูอบอุ่นมากกว่าการทำงานองค์กรที่ใหญ่กว่า
  • มีความยืดหยุ่น บริษัทเล็กไม่มีกฎเกณฑ์มากมายอย่างกับองค์กรขนาดใหญ่ ทำให้การทำงานมีความยืดหยุ่นได้ และบางครั้งสามารถเข้าปรึกษากับหัวหน้าโดยตรงได้ทันที

ความท้าทายในการทำงานองค์กรขนาดเล็ก

  • ความเสี่ยงในหารตกงานมากกว่า เนื่องจากเป็นองค์ขนาดเล็ก ที่บริษัทยังไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่นัก ทำให้บริษัทมีโอกาสปิดตัว และทำให้พนักงานเสี่ยงต่อการตกงาน
  • ฐานเงินเดือนไม่ค่อยสูง เนื่องด้วยองค์กรขนาดเล็กมีต้นทุนที่จำกัด ทำให้เงินเดือนพนักงานไม่น้อยกว่ามตราฐาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเจรจา ตกลังกันทั้งสองฝ่ายในเรื่องของเงินเดือน ตลอดจนสวัสดิการอื่นๆอีกด้วย

การเลือกทำงานไม่ว่าจะเป็นองค์เล็ก หรือองค์ใหญ่มักมีข้อดีและข้อเสียต่างกัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผู้สมัครต้องพิจารณา ไตร่ตรองให้ดี ว่าตัวเองชอบ และเหมาะกับองค์กรไหนมากกว่ากัน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือ เมื่อเข้าทำงานในองค์กรแล้ว ก็ควรเต็มที่ และมุ่งมั่นกับงานให้มากขึ้น

ความคิดเห็นของคุณ

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่