เน้นฝึกอบรมมนุษย์ทำงาน รองรับอัจฉริยะยุคดิจิทัล

เราใช้ชีวิตอยู่ในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากธุรกิจใหม่ไปสู่ระบบพลังงานใหม่ การปฏิรูปสู่ดิจิทัลได้ขยายไปรอบตัวเรา ด้วยสภาพการแข่งขันอย่างสูงในธุรกิจ ความสำเร็จขององค์กรในวันนี้ จึงขึ้นอยู่กับว่าองค์กรธุรกิจนำความสามารถด้านการเชื่อมต่อ ความสามารถในการคาดการณ์ รวมถึงความเรียบง่ายในการบริหารจัดการข้อมูลมาช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับพนักงาน เพื่อเพิ่มผลลัพธ์และความเชี่ยวชาญในการสร้างคุณค่าและการเติบโตให้กับองค์กรได้มากน้อยแค่ไหน?  สำหรับในวันนี้ JobCute ก็จะนำไปศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับคนทำงานที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงให้ก้าวทันเทคโนโลยี และระบบอัจฉริยะในยุคดิจิทัลกันนะคะ

การปฏิรูปทางดิจิทัลถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี เช่น คลาวด์ ปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence หรือ AI) และ IoT สำหรับอุตสาหกรรม (IIoT) ซึ่งหลายอุตสาหกรรมต่างค่อยๆ ทยอยกันเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจในปัจจุบัน สิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจคือ ต้องแน่ใจด้วยว่าบุคลากรจะต้องได้รับการ “ปฏิรูปทางดิจิทัล” ด้วยเช่นกัน ดังนั้น ผู้ที่สามารถปรับใช้เทคโนโลยีได้ดีหรือผู้ที่ก้าวทันโลก จะมีความสามารถนำโอกาสที่เกิดในยุค IoT มาใช้กับการทำงานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

เน้นฝึกอบรมมนุษย์ทำงาน รองรับอัจฉริยะยุคดิจิทัล
เน้นฝึกอบรมมนุษย์ทำงาน รองรับอัจฉริยะยุคดิจิทัล

เพิ่มขีดความสามารถของพนักงาน จากความร่วมมือและการฝึกอบรม

แม้ว่าบริษัทมากมายต่างตระหนักดีถึงความสำคัญของการปรับโฉมให้กับคนทำงาน แต่ก็ยังคงมีช่องว่างในเรื่องของทักษะอยู่มาก ในภาพรวมของเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องดูแลและสร้างคนทำงานที่พร้อมสำหรับอนาคต ด้วยการลงทุนเรื่องของการฝึกอบรม เพิ่มทักษะ ให้กับพนักงานและส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว  บริษัทฯยังมีอีกบทบาทสำคัญในการดูแลผู้ที่มีความสามารถพิเศษก่อนเข้าสู่การทำงาน ด้วยการเข้าไปมีส่วนร่วมกับสถาบันการศึกษาต่างๆ ซึ่งอาจรวมถึงความร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัย เพื่อให้นักเรียนมีทักษะด้านเทคนิคจากโปรแกรมฝึกงาน และการฝึกอบรมในที่ทำงาน รวมถึงการจัดแข่งขันนำเสนอแผนธุรกิจในการทำงานจริง

ประโยชน์ของบุคลากร ที่มีความสามารถทางเทคโนโลยี (Smart Workforce)

คนทำงานที่มีความพร้อมในการใช้ประโยชน์จาก IoT จะมีอนาคตไกล เพื่อพิสูจน์ว่าบริษัทไปได้ดีในยุคดิจิทัล การเปลี่ยนธุรกิจสู่ดิจิทัล จะปูทางไปสู่การหลอมรวมข้อมูลจากการวางแผนและการดำเนินการจริงเข้าด้วยกัน เพื่อการบริหารจัดการสินทรัพย์และความสูญเสีย โดยใช้เทคโนโลยีการบริหารข้อมูลและระบบวิเคราะห์ข้อมูลมาช่วยให้ผู้ประกอบการมองเห็นภาพของความสามารถในการทำกำไรในโครงการนั้นๆ ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการ หรือทนุบำรุงดูแลสินทรัพย์ก่อนที่จะเกิดความเสียหาย

เน้นฝึกอบรมมนุษย์ทำงาน รองรับอัจฉริยะยุคดิจิทัล
เน้นฝึกอบรมมนุษย์ทำงาน รองรับอัจฉริยะยุคดิจิทัล

การผสานรวมเทคโนโลยีต่างๆ เช่นอุปกรณ์ AR (augmented-reality) ที่ใช้ IoT ช่วยเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้ใช้งาน ด้วยทักษะและความรู้ใหม่ๆที่ช่วยให้สามารถบริหารจัดการกับสินค้าคงคลังได้ดียิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อที่มากขึ้นจากการใช้ IoT ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ โดยนำข้อมูลมาใช้คาดการณ์ถึงความล้มเหลวได้ล่วงหน้า บุคลากรสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเท่าทันเหตุการณ์มากขึ้น ด้วยการดำเนินการซ่อมแซมและเปลี่ยนอุปกรณ์ก่อนที่เครื่องจะทำงานผิดปกติซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน ความก้าวหน้าด้านความฉลาดของเครื่องจักรยังช่วยให้มนุษย์สามารถทำงานโต้ตอบกับระบบเซ็นเซอร์ได้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของงานและให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

เทคโนโลยีในวันนี้จะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีที่ใหม่กว่าในวันพรุ่งนี้ คนทำงานยุคใหม่จำเป็นอย่างยิ่ง ต้องมีความสามารถในการควบคุมการใช้เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดได้ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของบริษัท องค์กรจำต้องลงทุนในเรื่องของการอบรมและพัฒนาผู้ที่มีความสามารถโดดเด่น พร้อมกันนี้ สิ่งสำคัญคือการฝึกอบรมให้กับผู้มีความสามารถที่เพิ่งเข้ามาเริ่มงานใหม่ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะมีบุคคลที่พร้อมด้วยความสามารถและทักษะความชำนาญเข้ามาร่วมทีมและสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงคือสิ่งเดียวที่เกิดขึ้นตลอดเวลาในชีวิตและเราจำเป็นต้องดำเนินบทบาทในการสร้างความมั่นคงให้กับอนาคต

 

ความคิดเห็นของคุณ

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่