ในยุคที่เทคโนโลยีมีความเติบโตและก้าวไกล ทำให้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโซเซียลมิเดียเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการสืบค้นหาข้อมูลต่างๆ ติดตามข่าวสาร การติดต่อสื่อสาร พูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ตลอดจนการซื้อสินค้าและบริการต่างๆผ่านโซเซียลมิเดีย ซึ่งสามารถอำนวยความสะดวกต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก เพียงแค่ทำผ่านหน้าจอโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ เรียกว่าได้เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจในยุคนี้เลยทีเดียว ปัจจุบันหลายบริษัทที่หันมาใช้ประโยชน์จากโซเซียลมิเดียมาใช้ในการทำงานและถือว่าเป็นอีกหนึ่งทักษะที่ทุกคนควรมี รวมถึงต้องสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานต่างๆได้อย่างหลากหลายอีกด้วย

วันนี้แอดมินเว็บไซต์ Jobcute มีบทความเกี่ยวกับสายงานอาชีพที่ต้องใช้ทักษะเกี่ยวกับโซเซียลมิเดียมาฝากกัน ซึ่งถือว่าเป็นทักษะที่เราต้องเรียนรู้และปรับตัว หรือเพิ่มเติมทักษะต่างๆเพื่อเป็นประโยชน์กับงานของเรา

  1. งานการตลาด

คุณภาพสินค้าและการบริการของบริษัทจะดีแค่ไหนนั้นย่อมขึ้นอยู่กับการทำการตลาด การโฆษณาได้อย่างน่าสนใจและถึงกลุ่มเป้าหมายได้หรือไม่ หากเราไม่สามารถทำการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ ก็คงยากที่สินค้าจะเป็นที่รู้จักหรือขายได้ ในยุคสื่อออนไลน์และโซเซียลมิเดียมีอิทธิพลเช่นนี้ การทำตลาดแบบออฟไลน์อย่างเดียวไม่น่าจะเพียงพอ ซึ่งคนที่ทำงานสายการตลาด นักโฆษณา นักพัฒนาธุรกิจ หรือนักสื่อสารการตลาดจำเป็นต้องปรับตัวและนำ  โซเซียลมาประยุกต์ในอาชีพการงานเพื่อให้การทำการตลาดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไม่เพียงแค่สามารถใช้โซเซียลมิเดียเท่านั้น สายงานนี้จำเป็นต้องมีทักษะด้านการคิด วิเคราะห์ และเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม เพราะโซเซียลมิเดียมีเครื่องมือที่สามารถแสดงประสิทธิภาพของโพสต์ต่างๆได้ ซึ่งเราสามารถรู้ได้ว่าช่วงเวลาไหนมีผลตอบรับจากผู้บริโภคมากกว่า จากนั้น นำข้อมูลมาคิด วิเคราะห์ เพื่อวางแผนในการทำการตลาดในขั้นต่อไปเพื่อให้ถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5 สายงานที่ต้องใช้ทักษะโซเซียลมิเดีย
  1. นักเขียนโปรแกรม ไอที และงานคอมพิวเตอร์

สายงานด้านคอมพิวเตอร์นี้ ไม่ว่าจะเป็นนักเขียนโปรแกรม หรือนักไอทีก็ตาม เป็นฝ่ายที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง อย่างไรก็ตาม ทักษะทางโซเซียลมิเดียต่างๆก็ต้องให้ความสนใจเช่นกัน เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาหรืออัพเดตข้อมูลต่างๆให้สอดคล้องกับสินค้าและบริการให้ตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น โดยคนที่ทำงานสายนี้จะต้องอัพเดตเทรนด์และศึกษาเกี่ยวกับระบบใหม่ๆของโซเซียลมิเดียอยู่ตลอดเวลา เพื่อนำมาปรับใช้ในการพัฒนาแอปพลิชันให้สามารถทำงานร่วมกับโซเซียลมิเดียได้อย่างดีที่สุด

5 สายงานที่ต้องใช้ทักษะโซเซียลมิเดีย
  1. งานบริการลูกค้า

งานบริการ คืองานที่ต้องคอยดูแล ให้คำแนะนำแก่ลูกค้า เมื่อมีลูกค้าสอบถามต้องการทราบถึงข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นก่อนการตัดสินใจซื้อและหลังการซื้อก็ตาม เราต้องคอยดูแลลูกค้าให้ดีเพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจตั้งแต่ก่อนซื้อ จนไปถึงขั้นตอนหลังการขาย นอกจากการสอบถามไปยังคอลเซ็นเตอร์แล้ว โซเซียลมิเดียของแบรนด์ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่นิยมเช่นกัน ดังนั้นความรู้ด้านการบริการหรือใจรักการบริการ ถือว่าไม่เพียงพอสำหรับยุคโซเซียลมิเดียนี้ คนทำงานสายนี้ต้องมีความสามารถด้านโซเซียลมิเดียอย่างดี เพื่อบริการแก่ลูกค้า และที่สำคัญคือ ต้องมีทักษะการสื่อสารที่ดี สามารถสื่อสารกับลูกค้าทางโซเซียลมิเดียไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถามข้อสงสัยต่างๆ หรือวิธีการแก้ปัญหา นอกจากนี้ การรับฟังฟีดแบ็กจากลูกค้า ก็ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงและพัฒนาสินค้าให้ดีขึ้นกว่าเดิม

5 สายงานที่ต้องใช้ทักษะโซเซียลมิเดีย
  1. งานเขียน

ปัจจุบันเราใช้ชีวิตกับสื่อออนไลน์มากขึ้น ทำให้งานเขียนไม่ได้จำกัดอยู่ที่หนังเดียวเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถอยู่บนพื้นที่ออนไลน์ได้ด้วย เช่น บล็อกต่างๆ ล้วนเป็นพื้นที่สื่อสารกับคนทั่วไปได้ง่ายและมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งทักษะของคนทำงานด้านงานเขียนนี้ไม่เพียงแค่ต้องใช้ภาษาที่ถูกต้องเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสื่อสารผ่านโซเซียลมิเดียอีกด้วย นักเขียนเหล่านี้ต้องใช้ภาษาอย่างไรเพื่อดึงดูดให้นักอ่านเข้ามาอ่านบทความของตน อย่างไรก็ตาม ภาษาที่ใช้นั้นต้องขึ้นอยู่กับลักษณะของแบรนด์ที่ต้องการนำเสนอ รวมถึงต้องออกแบบให้เหมาะกับแพลตฟอร์มในการนำเสนอสินค้าอีกด้วย

5 สายงานที่ต้องใช้ทักษะโซเซียลมิเดีย
  1. Multimedia Designer

งาน Multimedia Designer จะเป็นการนำเสนอเนื้อหาผ่านภาพและวิดีโอ ซึ่งคนที่ทำงานประเภทนี้จะทำหน้าที่ออกแบบ สร้างสรรค์ และลงมือทำไม่ว่าจะเป็นภาพหรือวิดีโอบนสื่อโซเซียลมิเดีย เพื่อสื่อให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้นและมีความสนใจในผลงานออกแบบ นอกจากนี้ Multimedia Designer  ต้องมีทักษะด้านการออกแบบสื่อต่างๆให้สวยงาม น่าสนใจ และสามารถสื่อความหมายให้เข้าใจง่าย รวมถึงต้องเรียนรู้และพัฒนาทักษะให้ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้งานเหล่านั้นออกมามีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การทำงานและองค์กรได้ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้

ความคิดเห็นของคุณ

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่