นักพยาธิวิทยาด้านการพูดและภาษา (Speech-Language Pathologist)

ถ้าจะพูดถึงอาชีพนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะแอบงงเพราะไม่ค่อยจะได้ยินใครพูดถึงอาชีพนี้เท่าไรนัก แต่จะบอกเลยนะคะว่าอาชีพนี้จะทำการแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ป่วยที่มีความบกพร่องทางการสื่อสาร และสำหรับอาชีพนี้ก็สามารถที่จะทำรายได้ต่อเดือนให้กับ “นักพยาธิวิทยาด้านการพูดและภาษา (Speech-Language Pathologist)” มากกว่า 265,000บาทเลยทีเดียวค่ะ

สำหรับในวันนี้ทางเวปไซต์ JobCute จะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักถึงอาชีพนี้กันว่ามีลักษณะการทำงานอย่างไร และมีบทบาทอย่างไรบ้าง ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

(Speech-Language Pathologist)

 

ขอบข่ายวิชาชีพการแก้ไขการได้ยินและการแก้ไขการพูดแบ่งเป็น 2 ด้าน คือ

1.งานด้านแก้ไขการพูด มีนักแก้ไขการพูด (Speech-Language Pathologist) ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการวินิจฉัยความผิดปรกติทางภาษาและการพูด การคัดกรองหาข้อบ่งชี้ ประเมินสภาพความผิดปรกติ ทดสอบความสามารถทางภาษาและการพูดรวมถึงการกลืน แยกประเภทความผิดปรกติต่างๆ บำบัดรักษา แก้ไข และฟื้นฟูสมรรถภาพครอบคลุมได้ทุกประเภทของความผิดปรกติ เช่น พูดไม่ได้ พูดไม่ชัด พูดติดอ่าง เสียงผิดปรกติ เสียงแหบแห้ง เสียงแตกพร่า พูดช้ากว่าวัย ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุของความผิดปกติต่างๆได้แก่ ปากแหว่งเพดานโหว่ ประสาทหูพิการ กลุ่มอาการออทิสติก สติปัญญาอ่อน กลืนลำบาก กลืนผิดวิธี ผู้ป่วยที่ผ่าตัดกล่องเสียง ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยที่ได้รับอุบัติเหตุทางสมอง ชาวต่างชาติที่พูดภาษาไทยด้วยสำเนียงแปร่ง เป็นต้น

2.งานด้านโสตสัมผัสวิทยา  มีนักแก้ไขการได้ยิน (Audiologist) ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการตรวจวินิจฉัยหาพยาธิสภาพของระบบการได้ยินที่เกิดขึ้นตั้งแต่หูชั้นนอก หูชั้นกลาง หูชั้นใน ก้านสมอง และสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการได้ยินด้วยวิธีปกติและวิธีพิเศษ ตลอดจนตรวจวินิจฉัยหาพยาธิสภาพของระบบที่เกี่ยวข้องกับการทรงตัว ตรวจเพื่อค้นหาความผิดปรกติทางการได้ยินในทารกแรกเกิด โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงเพื่อติดตามผลและวางแผนการฟื้นฟูสมรรถภาพการได้ยิน โดยการประเมินผลเพื่อเลือกและใส่เครื่องช่วยฟังให้เหมาะสมกับระดับการสูญเสียการได้ยินของผู้ป่วย

านด้านโสตสัมผัสวิทยา
บทบาทหน้าที่หลักของวิชาชีพนี้คือ

1.ดูแลรักษาแก้ไขปัญหาโดยตรง ทั้งการดูแลรักษาผู้ที่มีปัญหาสื่อสารด้านการพูด ภาษาและการได้ยินเป็นรายบุคคลหรือกลุ่ม การฝึกทางไกลผ่าน Skype การให้แบบหัดการบ้าน การติดตามความเปลี่ยนแปลงและผลลัพธ์ของการฝึก การดูแลรักษาอาจทำเฉพาะนักวิชาชีพนี้เท่านั้นหรือทำงานเป็นทีมร่วมกับนักวิชาชีพอื่นๆ

2.ให้ความรู้ คำแนะนำ ปรึกษา และอบรมทั้งด้านทฤษฎีและปฏิบัติแก่ผู้ที่มีปัญหาสื่อสารด้านการพูด ภาษาและการได้ยิน ครอบครัว พี่เลี้ยง ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้อง บุคลากรในทีมสหสาขาวิชาชีพ และผู้ที่สนใจ

3.การป้องกันโดยเฉพาะปัญหาการสื่อสารที่ป้องกันได้ เช่น

 – ปัญหาเด็กขาดการกระตุ้นทางภาษาและการพูดที่เหมาะสม
 – ปัญหาพัฒนาการพูดและภาษาล่าช้ากว่าวัย
 – ปัญหาพูดไม่ชัดในเด็กปกติ
 – ปัญหาเสียงแหบแห้งในกลุ่มวิชาชีพที่ใช้เสียงผิดอย่างผิดๆ
 – ปัญหาสูญเสียการได้ยินจากการสัมผัสเสียงดังๆหรือนานเกินไป
(Speech-Language Pathologist)

4.การขยายผลสู่สังคม (Collaborate Social Respond) เพื่อให้บริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของชุมชน ให้สมาชิกในสังคมมีส่วนร่วมและให้เป็นบริการที่เข้าถึงได้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ เช่น

 – การอบรมเชิงปฏิบัติการวิธีการช่วยเหลือแก่ผู้ที่มีปัญหาการสื่อสาร/ครอบครัว/ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง
 – การพัฒนานวัตกรรมเพื่อให้ผู้ที่มีปัญหาการสื่อสารและครอบครัวสามารถฝึกหัดทำเองที่บ้านได้เพื่อเพิ่มความถี่ของการฝึกหัด
 – การฝึกพูดทางไกลเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการและความถี่ของการฝึกรักษา
 – การฝึกบุคลากรที่เกี่ยวข้องในการคัดกรองปัญหาเพื่อการสืบค้นปัญหาแต่แรกเริ่ม
 – การอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรทีเกี่ยวข้องเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและสร้างเครือข่ายการทำงาน
 – การจัดนิทรรศการเกี่ยวกับวิชาชีพในวาระและโอกาสต่างๆ
เชื่อว่าเมื่อเพื่อน ๆ ได้อ่านบทความนี้มาถึงตรงนี้ก็คงจะเข้าใจอย่างลึกซึ้งแล้วใช่ไหมค่ะว่า อาชีพนี้มีบทบาทและหน้าที่อย่างไร ดูเหมือนไม่ง่ายเลยใช่ไหมค่ะ แต่ทุก ๆ อาชีพถ้าเรามีใจรักในการให้บริการแอดมินเชื่อนะคะว่าเราจะผ่านและทำอาชีพนั้น ๆ ได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอนค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุก ๆ คนค่ะ

ความคิดเห็นของคุณ

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่