เมื่อสิ้นปีใกล้เข้ามาถึง เราเคยสำรวจตัวเองดูบ้างหรือไม่คะ ว่าการทำงานที่ผ่านมาเรามีความสุขมากน้อยแค่ไหนหรือทุกข์มากกว่าเดิม และอะไรบ้างที่เราอยากจะเปลี่ยนแปลงจากอดีตที่ผ่านมา วันนี้ทาง Jobcute ก็เลยมีวิธีการสำรวจตัวเองและการจัดระเบียบชีวิตให้เข้าที่เข้าทางมากขึ้น โดยเริ่มจากการทิ้งสิ่งที่ขัดขวางความสุข ไม่ว่าจะเป็นนิสัยที่เป็นปัจจัยให้ฉุดรั้งความก้าวหน้า หรือเคลียร์ข้าวของที่ไม่เกิดประโยชน์และอย่าปล่อยให้สิ่งไม่จำเป็นมายึดครองพื้นที่ชีวิตได้ เรามาดูกันเถอะค่ะว่า มีวิธีกำจัดสิ่งไม่จำเป็นได้อย่างไรเพื่อให้ชีวิตเราดีขึ้น ไปดูกันเลยค่ะ

สิ้นปีแล้ว ทำอย่างไรให้มีความสุขในการทำงานมากขึ้น?

1. สิ่งของบนโต๊ะที่ไม่จำเป็น 

โต๊ะทำงานนับว่าเป็นสิ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการทำงานและยังบ่งบอกถึงนิสัยของคุณได้อีกด้วย ถ้าคุณปล่อยให้โต๊ะทำงานเต็มไปด้วยของที่ไม่จำเป็น ชีวิตคุณเองก็จะยุ่งเหยิงตามไปด้วย จะหยิบจับหรือหาอะไรก็ไม่สะดวก ดังนั้น การจัดโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เหลือแต่สิ่งของจำเป็น จะทำให้คุณทำงานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว หยิบจับอะไรก็คล่องมือ โดยสามารถคัดแยกเอกสารเป็น 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ เอกสารสแกน เอกสารสำหรับเก็บไว้เป็นหลักฐาน และเอกสารที่ใช้จริง นอกเหนือจากเอกสารเหล่านี้แล้ว ก็ไม่ควรเก็บไว้ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะทิ้งเอกสารต่าง ๆ นั้น ควรสำรวจให้ดี ๆ ก่อน เพราะอาจจะมีเอกสารหรือข้อมูลสำคัญรวมอยู่ด้วย ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเลยทีเดียว

สิ้นปีแล้ว ทำอย่างไรให้มีความสุขในการทำงานมากขึ้น?

2. นิสัย “ผัดวันประกันพรุ่ง”

เราควรเลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่งและหันมาจัดลำดับความสำคัญของงาน เพื่อจะได้รู้ว่างานไหนควรทำก่อน และงานไหนควรทำทีหลัง ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เราได้มีเวลาไปทำกิจกรรมอย่างอื่นอีกด้วย ไม่ใช่ปั่นงานอย่างเดียว อาจจะทำให้คุณพลาดได้ง่ายและยังส่งผลต่อสุขภาพอีกด้วย

3. เปิดใจและลองทำสิ่งใหม่ ๆ 

เมื่อเราไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเอง ก็จะไม่กล้าเปิดใจลองทำสิ่งใหม่ ๆ จึงส่งผลให้ไม่มีโอกาสได้พัฒนาตัวเองเลย แทนที่จะคิดว่าเป็นไปไม่ได้ และให้ลองคิดว่า “ทำได้” หลังจากนั้นลองทำให้เต็มที่และสุดความสามารถ แม้ว่าผลที่ออกมาจะได้ไม่เท่าที่คาดหวังไว้ก็ตาม แต่อย่างน้อย ๆ เราก็ได้ลองอย่างสุดความสามารถ ได้เดินออกจาก Comfort Zone ทั้งนี้ ในเรื่องงานก็เช่นเดียวกัน โดยเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ แล้วค่อย ๆ พัฒนาไปเรื่อย ๆ เพียงแค่นี้ก็ถือว่าชนะใจตัวเองได้ในระดับหนึ่งแล้ว

4. มองข้ามอคติ 

อคติ นับว่าเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้คุณไม่มีความสุขในการทำงาน แล้วพาลเห็นอะไรก็ไม่เข้าตาไปหมด ไม่ว่าจะเป็นนิสัยที่ไม่ชอบหรือเกลียดวันจันทร์ เบื่องาน เหนื่อยหน่ายกับหัวหน้างานหรือเพื่อนร่วมงาน รวมถึงปัจจัยต่าง ๆ อีกมากมาย ในทางกลับกัน เราควรทิ้งความอคติเหล่านี้เสียบ้าง แล้วลองหาข้อดีของอีกฝ่าย จับมือกันเพื่อสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ไปด้วยกัน

สิ่งที่ไม่ควรละทิ้ง
สิ้นปีแล้ว ทำอย่างไรให้มีความสุขในการทำงานมากขึ้น?

1. เป้าหมายในชีวิต 

หากคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจน จะทำให้คุณกลายเป็นคนที่รู้จักการวางแผนและมีวินัยในชีวิตมากยิ่งขึ้น เพื่อไปให้ถึงจุดที่หวังไว้ ซึ่งเป้าหมายในแต่ละช่วงวัยอาจจะแตกต่างกันออกไป หากเราเพิ่งเรียนจบใหม่ ๆ อาจจะขอให้ได้งานที่ทำและได้เงินเดือนที่สมเหตุสมผล เมื่อทำงานไปสักระยะ เป้าหมายอาจจะเปลี่ยนไปเป็นตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างหัวหน้าแผนก หรือผู้จัดการ อย่างไรก็ตาม เราควรกำหนดเป้าหมายชีวิตที่สอดคล้องกับความเป็นจริงและเป็นสิ่งที่เราต้องการ เมื่อมีเป้าหมายในชีวิตแล้ว ขั้นตอนต่อไปเราต้องวางแผนและลงมือปฏิบัติจริงด้วย ไม่เช่นนั้นฝันที่วางไว้ อาจจะกลายเป็นฝันกลางวันที่เลื่อนลอย มากไปกว่านั้นคือการสร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง หมั่นพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อพัฒนาให้ตัวเองประสบความสำเร็จในหลาย ๆ ด้าน

2. พัฒนาศักยภาพตัวเองด้วยคำวิจารณ์ที่สร้างสรรค์

ช่วงปลายปีแบบนี้ จะตรงกับช่วงประเมินผลงานประจำปี ถ้าหากว่าคุณมั่นใจว่าทำงานเต็มที่แล้ว ไม่ว่าผลประเมินจะเป็นอย่างไร ก็ควรยอมรับไว้เพราะไม่มีใครสมบูรณ์แบบและเก่งไปหมดทุกอย่าง โดยเก็บเอาคำวิจารณ์ต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์เป็นพลังบวกในการทำงานและใช้ชีวิตต่อไป เพื่อนำมาพัฒนาตัวเองและแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ที่ผ่านมา ก็จะทำให้คุณทำงานได้อย่างมืออาชีพเลยทีเดียว

สิ้นปีแล้ว ทำอย่างไรให้มีความสุขในการทำงานมากขึ้น?

3. เงินออม

มนุษย์เงินเดือนทุกคนควรมีเงินออมไม่ต่ำกว่า 20% ของรายได้ต่อเดือน แต่การเก็บเงินในปัจจุบัน เป็นอะไรที่ยากกว่าการใช้เงินเสียอีก ยิ่งปัจจุบันอยู่ที่ไหนก็สามารถช้อปได้ง่าย ๆ แค่คลิกเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ มนุษย์เงินเดือนหลายรายที่มักจะใช้เงินกับการท่องเที่ยวที่มากเกินไปและเกินความจำเป็น ทำให้นิสัยเหล่านี้ ส่งผลให้การออมเงินยากขึ้น ดังนั้น ควรออมเงินให้สม่ำเสมอ เพื่อเก็บเงินไปใช้ในวัยเกษียณหรือในช่วงที่ตกงาน นอกจากเงินออมแล้ว ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่สามารถใช้เงินในวัยเกษียณได้ นั่นคือ การเล่นหุ้น หรือการลงทุนอสังหาริมทรัพย์นั่นเอง เนื่องจากวิธีเหล่านี้ นับว่าเป็น Passive Income ที่เป็นรายได้และสามารถใช้ได้ในอนาคตได้อีกด้วย

เป็นอย่างไรบ้างคะ กับวิธีต่าง ๆ ที่ Jobcute ได้เสนอมาข้างต้น หยุดอยู่กับกรอบเดิม ๆ โดยการท้าทายตัวเองด้วยการกำจัดสิ่งไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต แล้วเพิ่มความสุขให้กับตัวเอง แอดมินเชื่อว่าหากลองปฏิบัติตามนี้แล้ว สามารถทำให้การใช้ชีวิตในปัจจุบันและการทำงานดียิ่งขึ้นกว่าเดิมเลยทีเดียว

ความคิดเห็นของคุณ

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่