7 อาชีพที่คนรักสวยรักงามไม่ควรพลาด
เชื่อว่าทุกคนนั้นย่อมจะต้องมีอาชีพในการดำเนินชีวิตด้วยกันทั้งนั้น แต่ใครจะทำอาชีพอะไรนั้นก็ต้องแล้วแต่ว่าใครเรียนจบมาจากสาขาอะไร หรืออาจจะไม่ได้เรียนจบมาแต่มีความสามารถที่จะประกอบอาชีพนั้น ๆ ได้ และเชื่อหรือไม่ค่ะว่า ในวัยเด็กเราทุกคนคงจะต้องเจอคำถามที่ว่า “โตขึ้นอยากเป็นอะไรดี” และเชื่อว่าบางคนก็โตมาหลายปีแล้ว แต่ก็ยังจับทางจับต้นชนปลายไม่ถูกไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอาชีพอะไรดี แต่ถ้าหากคุณรู้สึกว่าเป็นคนรักสวยรักงามชอบเกี่ยวกับความงาม อย่างเช่น ชอบทางด้านเรื่องการแต่งหน้า ก็พอมีอาชีพที่จะทำให้คุณอยู่กับความงามที่คุณชอบ และยังสามารถสร้างรายได้ให้กับคุณได้อีกด้วยนะคะ วันนี้ JobCute ก็เลยอยากจะมาแนะนำอาชีพที่ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับความสวยความงามให้ได้รู้จักกัน ถ้าเราชอบเรื่องความสวยความงามแล้วล่ะก็อย่ารอช้านะคะ จะพาไปติดตามว่าจะพอมีอาชีพอะไรที่เราเป็นได้บ้าง ตามมาดูเลยค่ะ
1. แพทย์ผิวหนัง
ใครที่รักเรื่องผิว และอยากรู้เกี่ยวกับผิวอย่างจริงจังไปเลย เราขอแนะนำอาชีพแพทย์ผิวหนังค่ะ แต่เส้นทางของอาชีพนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเราต้องเรียนหมอแบบปกติทั่วไป 6 ปี แล้วค่อยต่อสายผิวหนังอีก 3-4 ปีค่ะ หลายคนอาจจะมองว่าแพทย์ผิวหนังได้อยู่กับอะไรที่ไม่น่ากลัว อยู่กับความสวยความงาม ไม่ต้องจับมีดผ่าตัด แต่ต้องอย่าลืมว่า คำว่า “ผิวหนัง” ไม่ได้หมายถึงเรื่องสิว ผิวกระจ่างใสเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโรคผิวหนังหลายๆ โรค บางเคสก็ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดก็มีค่ะ แต่ถ้าใครชื่นชอบเรื่องผิว อยากเรียนรู้แบบลึกๆ ก็แนะนำอาชีพนี้เลยค่ะ
2. พนักงานทำทรีทเมนต์
พูดถึงชื่ออาชีพนี้อาจจะยังนึกไม่ออกว่าทำหน้าที่อะไร พนักงานทำทรีทเมนต์หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งก็คือ พนักงานผู้ช่วยแพทย์ผิวหนังที่อยู่ตามคลินิกความงามต่างๆ หน้าที่ก็อย่างเช่น ต้อนรับ ให้ข้อมูลลูกค้า ทำทรีทเมนต์เกี่ยวกับผิวหน้าต่างๆ เช่น กดสิว นวดหน้า ช่วยเหลือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการทำทรีทเมนต์ต่างๆ สำหรับอาชีพนี้ จากที่ค้นหาข้อมูลในการรับสมัครพนักงาน บางทีก็ไม่จำเป็นต้องจบหมอ หรือมีใบประกาศนียบัตรค่ะ แต่ใครที่อยากมีความรู้เพิ่มเติมก็สามารถลงคอร์สสั้นๆ เกี่ยวกับการทำทรีทเมนต์ผิวหนัง หรือบางคลินิกความงามก็จะมีคอร์สให้ลงเรียนเสริมความรู้เฉพาะค่ะ
3. R&D นักวิจัยและพัฒนาครีมและเครื่องสำอาง
R&D ย่อมาจากคำว่า Research & Development แปลว่า การวิจัยและพัฒนา ซึ่งอาชีพนี้ก็จะมีหลายสาขาด้วยกัน ทำหน้าที่วิจัยและพัฒนาสินค้าให้มีประสิทธิภาพ และเพิ่มคุณภาพให้สินค้าสามารถลงแข่งตามท้องตลาดได้ สำหรับ R&D ในสายสกินแคร์นั้น ก็จะทำการวิจัย คิดค้นสูตรเกี่ยวกับครีมบำรุง มีความรู้เรื่องส่วนผสมต่างๆ ว่าใส่ไปแล้ว จะทำให้ผิวเป็นอย่างไร ใครชื่นชอบการทำครีมแนะนำอาชีพนี้เลยค่ะ แต่ว่าเราจำเป็นต้องมีความรู้เฉพาะด้านด้วย คณะที่จบมาแล้วสามารถทำอาชีพนี้ได้ก็คือ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางค่ะ
4. ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม
อยากแต่งหน้าเก่งๆ แบบคุณฉัตรจังเลย แล้วถ้าเราอยากจะเป็นอย่างนั้นบ้างต้องเริ่มจากอะไร? จริงๆ แล้ว ปัจจุบันในประเทศไทยยังไม่มีคณะที่สอนการแต่งหน้าโดยตรงตามมหาวิทยาลัย มีเพียงวิชาเสริมในคณะต่างๆ เช่นคณะศิลปกรรมศาสตร์ ก็จะมีวิชาสอนเรื่องการแต่งหน้าเพื่อการแสดง แต่ก็ไม่ได้เน้นแต่งหน้าสวยๆ เพียงอย่างเดียว แต่จะมีการแต่งหน้าเอฟเฟ็กต์แบบต่างๆ ด้วย ถ้าอยากเรียนแบบลึกๆ ไปกว่านั้น ก็จะต้องไปเรียนตามสถาบันสอนแต่งหน้า สอนทำผมโดยเฉพาะ หรือไม่ก็ต้องไปศึกษาที่ต่างประเทศ ที่มีการเรียนการสอนเฉพาะทางในมหาวิทยาลัยต่างๆ แต่ส่วนใหญ่แล้วคนที่ไปเรียนก็จะลงเรียนเป็นคอร์สหรือระดับวุฒิบัติเท่านั้น
5. Beauty Blogger
สำหรับคนที่ชื่นชอบซื้อเครื่องสำอาง สกินแคร์มาลองใช้ และชอบเขียน ชอบเม้าท์มอยเกี่ยวกับความงามลงเพจหรือบล็อกส่วนตัว อาชีพนี้เป็นอาชีพที่ใช่สำหรับคุณค่ะ และดูเป็นอาชีพยอดนิยมในไทยสมัยนี้ด้วย สามารถลงมาทำเป็นงานประจำ หรือทำเป็นอาชีพเสริมก็ได้ โดยคุณสมบัติพิเศษ คุณต้องเป็นคนรักความสวย ความงาม ชื่นชอบเรื่องแฟชั่น ตามทันเทรนด์เครื่องสำอาง หรือครีมใหม่ๆ ที่ว่าดี ถ้ามีคนติดตามเยอะ ดีไม่ดีอาจมีคนจ้างให้เป็น Influencer ได้รายได้จากบล็อกส่วนตัวด้วยนะ
6. บรรณาธิการนิตยสารความงาม
สำหรับคนที่ชอบหนังสือ แต่ก็ชอบเรื่องความงาม แฟชั่นไปด้วย ลองมาดูอาชีพนี้กันค่ะ “บรรณาธิการนิตยสารความงาม” คุณอาจไม่ต้องถึงขั้นจบแพทย์ผิวหนัง หรือด้านแฟชั่น การออกแบบโดยเฉพาะ แต่ควรเรียนจบจากคณะสายวารสารศาสตร์ นิเทศศาสตร์ หรือเกี่ยวกับภาษามาด้วย เพราะเป็นงานที่ต้องทักษะด้ายภาษา และการทำสื่อเด่นไม่แพ้เรื่องความงามเลย
และควรมีประสบการณ์ในวงการความงาม แฟชั่น เพราะว่าคุณต้องเขียน นำเสนอเรื่องราวในแวดวงนี้อย่างลุ่มลึก นอกจากเรื่องความงามแล้ว คุณต้องมีความสามารถในการเขียน และความรู้เฉพาะด้านในการทำสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น การวางเลย์เอาท์ ศัพท์เทคนิคทางการพิมพ์ เช่น ขนาดของกระดาษ ที่ไม่ได้เรียกเป็นหน้าๆ แต่เรียกว่าเป็นหน้ายก และด้วยสถานการณ์สื่อสิ่งพิมพ์ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไหร่ คุณต้องมีไหวพริบทางด้านการตลาด ที่จะทำยังไงก็ได้ให้นิตยสารเราไม่ตายจากแผงหนังสือ หรือใครที่ชอบทำงานในโลกออนไลน์ อาจไปเป็นบรรณาธิการประจำเว็บไซต์ความงามก็ได้ด้วยนะคะ แถมเป็นอาชีพที่กำลังเป็นที่นิยมด้วย
7. เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางหรือสกินแคร์
การมีแบรนด์เครื่องสำอางหรือสกินแคร์เป็นของตัวเองเป็นความฝันของคนที่รักสวยรักงามหลายๆ คน ที่จะได้ทำงานไปกับสิ่งที่รัก และก็สร้างรายได้ให้กับตัวเองไปได้ด้วยเช่นกัน ถ้าอยากมีครีม หรือเครื่องสำอางก็สามารถทำได้ค่ะ ถ้ามีใจรัก ทุนมากพอ และมีความรู้เฉพาะด้าน แต่การทำแบรนด์สินค้าตัวเองไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากจะต้องมีเงินทุน แผนธุรกิจที่แข็งแรงแล้ว ต้องมีความรู้เรื่องส่วนผสมของเครื่องสำอาง และสกินแคร์ไว้บ้าง ถึงแม้ว่าเราจะมี R&D เป็นผู้ช่วย แต่จะดียิ่งกว่า ถ้าเรารู้ลึกเกี่ยวกับสินค้าตัวเองด้วยค่ะ ซึ่งปัจจุบันธุรกิจนี้ก็กำลังเติบโตในไทยและทั่วโลก ถ้าสนใจจะทำ ก็ต้องหาความแตกต่าง แล้วสร้างจุดแข็งให้กับตัวเองให้ได้ค่ะ
ใครจะรู้ว่าเรื่องสวยๆ งามๆ ก็สามารถทำเป็นอาชีพได้ด้วย เรื่องที่บางคนมองว่าเป็นเรื่องของงานอดิเรก ทำไปเพลินๆ บางทีก็เอามาทำเป็นอาชีพที่จริงๆ จังๆ ได้ สำหรับคนที่ชอบเรื่องความสวยความงาม ลองดูอาชีพที่เราแนะนำดูค่ะ อันไหนตรงใจบ้าง ก็เดินตามฝันนั้นได้เลย