การเลือกช่วงเวลาเปลี่ยนงาน มักมีผลให้ชีวิตเรารุ่งหรือร่วงได้ แต่จะเปลี่ยนงานในช่วงไหนนั้น ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาของปี เราจำเป็นต้องเลือกเปลี่ยนงานในช่วงเวลาที่ดีที่สุด และบางช่วงเวลาก็ควรหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนงาน เนื่องจากจะไม่ส่งผลดีต่อการใช้ชีวิตประจำวันขึ้นมาได้ วันนี้ทางเว็บไซต์ Jobcute มีบทความนำเสนอเกี่ยวกับช่วงเวลาไหนที่เป็นช่วงที่ดีที่สุดในการเปลี่ยนงาน และช่วงเวลาไหนที่ไม่ควรเปลี่ยนงาน

เลือกเปลี่ยนงาน หรือลาออกช่วงไหนดี?

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด – เดือนมกราคม และเดือนกุมภาพันธ์

เดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์ จัดว่าเป็นเดือนที่เหมาะสมมากที่สุดในการเปลี่ยนงานหรือสมัครงานใหม่ เนื่องจากหลังจากที่หยุดยาวจากช่วงปีใหม่แล้ว คนส่วนใหญ่มีความเชื่อว่า การเริ่มงานต่างๆในปีใหม่จะเป็นไปได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะการเลือกพนักงานและโทรนัดสัมภาษณ์งานจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังเป็นช่วงเวลาที่ผู้บริหารหรือผู้มีอำนาจในการตัดสินใจอยู่ในออฟฟิศกันเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การเปลี่ยนงานในช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนที่ดีที่สุด และโอกาสการติดต่อเพื่อสัมภาษณ์มากกว่าและรวดเร็วกว่าช่วงเวลาอื่นๆอีกด้วย

เลือกเปลี่ยนงาน หรือลาออกช่วงไหนดี?

หากคุณได้รับการสัมภาษณ์งานแล้ว แต่ยังไม่มีการติดต่อกลับมา คุณควรรอเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วค่อยติดต่อกลับอีกที เนื่องจากช่วงนี้ผู้บริหารหรือผู้ที่เกี่ยวข้องมักจะวุ่นๆในเรื่องงานอื่นอยู่บ้าง นอกจากนี้ ยังมีเหตุผลอื่นๆที่ทำไมเดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์ จัดว่าเป็นเดือนที่เหมาะแก่การเปลี่ยนงาน เนื่องจากองค์กรบางแห่งได้รับงบประมาณการสรรหาพนักงานในช่วงเดือนมกราคม รวมถึงเรื่องของโบนัสที่องค์กรทั่วไปมักจะจ่ายในเดือนธันวาคม  ดังนั้น พนักงานหลายคนรอจนถึงเดือนธันวาคมก่อนเพื่อได้รับโบนัส แล้วจึงตัดสินใจเปลี่ยนงานใหม่ทันที เรียกได้ว่า “รับโบนัสแล้วเปลี่ยนงานใหม่ทันที”

ช่วงเวลาที่ยังถือว่าดี – เดือนมีนาคม เดือนเมษายน และเดือนพฤษภาคม

ช่วงเวลา 3 เดือนนี้ ถือว่ายังเป็นช่วงเวลาที่ดีอยู่ในการสมัครงาน เพราะความนิยมในการจ้างพนักงานใหม่จะอยู่ในช่วงของเดือนมีนาคม จนถึง เดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ตาม หากคุณเปลี่ยนงานในช่วงเวลานี้ คุณจะยิ่งเจอการแข่งขันสูงระหว่างผู้หางานด้วยกัน เนื่องจากช่วงเวลานี้มีผู้สมัครงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเดือนเมษายน ที่ประเทศไทยเป็นช่วงเวลาที่มีวันหยุดยาว ทำให้องค์กรหลายแห่งเร่งการหาพนักงานใหม่ให้ได้เร็วกว่าเดิม ซึ่งฝ่ายบุคคลจะต้องเร่งเรียกสัมภาษณ์งานให้เร็วที่สุด

เลือกเปลี่ยนงาน หรือลาออกช่วงไหนดี?

ช่วงเวลาที่เหนื่อย – เดือนมิถุนายน กรกฎาคม และเดือนสิงหาคม

เหตุผลที่ทำให้ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยในการเปลี่ยนงาน เนื่องจากผู้บริหารหรือผู้สัมภาษณ์งานโดยส่วนใหญ่จะลาเที่ยวพักร้อนยาว ทำให้การสัมภาษณ์งานเกิดการล่าช้าและตัดสินใจเลือกผู้สมัครงานยากกว่าเดิม

โดยทั่วไปแล้ว องค์กรจะเปิดรับสมัครงานในช่วงต้นปีมากกว่า จึงทำให้เกิดการรับงานน้อยลงในช่วงเวลานี้ และคุณต้องใช้ความพยายามมากยิ่งขึ้น โดยที่คุณอาจจะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสโดยที่ใบสมัครงานของคุณอาจจะโดดเด่นในตำแหน่งงานที่คุณสมัครได้ด้วย การให้เวลาในการสัมภาษณ์งานในช่วงเวลานี้ต้องอาศัยความใจเย็นจากการตัดสินใจของบริษัทที่ได้สมัครงานอีกด้วย

ช่วงเวลาที่ยังถือว่าดี – เดือนกันยายน และเดือนตุลาคม

หากเทียบช่วงเวลานี้ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการเปลี่ยนงานใหม่ไม่แพ้เดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์เลยทีเดียว เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ผู้บริหารหรือผู้สัมภาษณ์งานกลับจากการลาพักร้อน และเริ่มนัดสัมภาษณ์งาน ซึ่งจะช่วยให้การสรรหาพนักงานใหม่จบได้เร็วยิ่งขึ้น

เลือกเปลี่ยนงาน หรือลาออกช่วงไหนดี?

ช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน – เดือนพฤศจิกายน และเดือนธันวาคม

โดยส่วนมากแล้ว ผู้บริหารหรือแผนกบุคคลจะเริ่มการสรรหาพนักงานใหม่ในช่วงของเดือนมกราคมเป็นต้นไป รวมถึงเรื่องงบประมาณที่จะได้ในปีหน้าและหลายๆคนมีการลางานยาวในช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม ดังนั้น เราจึงไม่แนะนำให้ผู้สมัครงานในช่วงเวลานี้ แต่หากว่าคุณสมัครงานในช่วงเวลานี้ คุณต้องทำใจในเรื่องของเรียกสัมภาษณ์ เพราะ HR โดยส่วนใหญ่จะยกยอดเรียกสัมภาษณ์ในปีถัดไปแทน

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนงานในช่วงเวลาไหนก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณต้องวางแผนการสมัครงานให้ดี ศึกษาการเขียนเรซุเม่ และศึกษาการสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษเพิ่มเติมเพื่อเป็นจุดที่น่าดึงดูดให้ HR เรียกสัมภาษณ์งานและรับงานทันที

ความคิดเห็นของคุณ

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่