ปัจจุบัน อุตสาหกรรมก่อสร้างถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก โดยคาดว่า ในปี 2562 การก่อสร้างน่าจะโตขึ้นประมาณ 4.5% ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์ใกล้เคียงกับปีก่อน หรือมีมูลค่าประมาณ 1.3 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว โดยมีผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในประเภทธุรกิจก่อสร้างทั่วประเทศเป็นจำนวน 79,648 รายด้วยกัน ซึ่งทั้งหมดนั้นล้วนเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
เมื่อโลกการแข่งขันเปลี่ยนไป ผู้ประกอบการต้องปรับวิธีดำเนินธุรกิจให้เข้ากับการแข่งขันที่เกิดขึ้นเพื่อให้ธุรกิจของตนนั้นยั่งยืน ส่วนใหญ่แล้วแนวทางที่ผู้ประกอบการนำมาปรับใช้จะเป็น การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในงานก่อสร้าง เพื่อสร้างและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ตลอดจนการแก้ไขปัญหาแรงงาน เป็นต้น
การวางแผนโครงการและการออกแบบโครงการ (Technology in Planning and Building Designs) จะมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น Building Information Modeling หรือ BIM คือ ซอฟต์แวร์ที่นำมาออกแบบจำลองโครงการให้เสมือนจริงในรูปแบบ 3 มิติ สามารถทำให้เห็นรายละเอียดของโครงการในมิติต่างๆได้อย่างชัดเจน เช่น การวางสายไฟฟ้าหรือท่อประปาภายในอาคาร จะช่วยลดข้อผิดพลาดในการออกแบบและง่ายต่อการแก้ไข อีกทั้งยังช่วยคำนวณปริมาณวัสดุก่อสร้าง ควบคุมต้นทุนและระยะเวลาในการก่อสร้างอีกด้วย
การบริหารจัดการด้านการเงินของโครงการ ปัจจุบันมีซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการด้านการเงินของโครงการในการก่อสร้าง โดยซอฟต์แวร์นั้นจะเป็นตัวคำนวณต้นทุนของโครงการ หรือคำนวณหาปริมาณวัสดุก่อสร้างที่จะใช้ ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการรู้ต้นทุนที่แท้จริงและสามารถควบคุมรายจ่ายได้ อย่างโปรมแกรม Builk เป็นต้น
ปัจจุบันเทคโนโลยีมีบทบาทในงานก่อสร้างมาก เนื่องจากมีนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆมาช่วยในงานก่อสร้างและในต่างประเทศสามารถนำมาใช้จริงแล้ว เช่น
- เครื่องก่อสร้างที่เชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นสมาร์ทโฟน หรือแท็บเลต เช่น เครื่องมือวัดระยะทางในไซต์งาน เครื่องวัดระดับเลเซอร์ เครื่องเจาะ โดยนำข้อมูลทั้งหมดมาคำนวณพื้นที่ของงานและวัสดุก่อสร้างได้แบบ Real Time
- การประยุกต์อุปกรณ์เพื่อนำมาใช้งาน เช่น การนำโดรนสำรวจพื้นที่ก่อสร้าง หรือไซต์งานและควบคุมงานในมุมสูงได้
- การก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัยด้วยเทคโนโลยี 3D Printing ซึ่งในต่างประเทศนิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลาย
นวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง มีการคิดค้นและพัฒนาให้วัสดุก่อสร้างมีความทนทานและแข็งแรง ขนส่งง่ายและช่วยให้การก่อสร้างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับวัสดุก่อสร้างสำเร็จรูปที่มีการใช้งานกันอย่างมาก เช่น แผ่นผนังก่อสร้าง โครงหลังคาสำเร็จรูป โครงสร้างอาคารเหล็ก เทคโนโลยีการสร้างรูปแบบกึ่งสำเร็จ อย่าง Modularization นอกจากนี้ยังมีผนังก่อสร้างอาคารสำเร็จรูปอีกด้วยที่เรียกว่า “Insulated Concrete Form ซึ่งมีน้ำหนักเบา มีความทนทานต่อความร้อน ถือว่าเป็นนวัตกรรมก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เทคโนโลยีมีบทบาทในการจัดการบริหารงานขาย การใช้ Virtual Reality และ Augmented Reality ในการนำเสนองานเพื่อเพิ่มความน่าสนใจแก่ลูกค้า โดยลูกค้าสามารถเห็นภาพของโครงการหรืองานที่ผู้ประกอบการเคยทำเสมือนจริงในหลายมิติ มากกว่าการนำเสนอผ่านรูปภาพ
ทั้งนี้พัฒนาการของเทคโนโลยีในภาคการก่อสร้างมีความหลากหลาย ซึ่งผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับประเภทและลักษณะของงาน ตลอดจนความพร้อมในการลงทุนในเทคโนโลยีนั้นๆด้วย แม้ว่าเทคโนโลยีบางประเภทจะอยู่ไกลตัวผู้ประกอบการเอสเอ็มอีก็ตาม แต่โลกการทำธุรกิจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้ประกอบการบางรายอาจเล็งเห็นถึงข้อดีของการนำเข้ามาทำการตลาดหรือสามารถเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตได้