เมื่อพูดถึงเรื่องธุรกิจประกันภัย (Insurance Business) นับว่าเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมสำคัญของโลกที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงให้กับผู้ซื้อประกันภัย โดยสามารถแบ่งเบาภาระและเพิ่มความเข้าใจในการใช้ชีวิต หากมองย้อนอดีตที่ผ่านมาหลายปีโดยเริ่มตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของธุรกิจประกันภัยเลย จะพบว่าการนำเสนอกรมธรรม์ประกันภัยผ่านกระดาษโดยตัวแทนประกันภัยที่เดินทางเคาะประตูถึงหน้าบ้าน ขยับมาเป็นการซื้อ-ขายประกันผ่านทางช่องขายออนไลน์ และเริ่มใช้เทคโนโลยี InsurTech มากขึ้น เห็นได้จาก “การส่งกรมธรรม์ออนไลน์ (E-Policy) แบบจ่ายเงินปุ๊ปรับกรมธรรม์ทันที ตามยุคสมัยเทคโนโลยีที่ต้องการความรวดเร็วเป็นหลัก แบบยิ่งเร็วยิ่งดีซึ่งเป็นรากฐานแนวโน้มธุรกิจประกันภัยในอนาคต

ทางด้าน คปภ. วิเคราะห์ว่า ทิศทางของลูกค้าประกันภัยปี 2020 ส่วนใหญ่จะเป็นคนกลุ่ม Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่เกิดหลังจากปี 1995 เพราะคนกลุ่มนี้ล้วนต้องการคุณภาพชีวิตที่ดี มีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยี ดังนั้น สิ่งที่บริษัทประกันภัยจะต้องปรับตัวและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมตามที่ลูกค้าต้องการ ได้แก่

  • ไม่เอาเปรียบผู้บริโภคและต้องคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก
  • ทั้งบริษัทประกันภัยและนายหน้าประกันภัยต้องตื่นตัวในการแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า
พยากรณ์ธุรกิจประกันในยุคอนาคต ปี 2030
พยากรณ์ธุรกิจประกันในปี 2030

ธุรกิจประกันภัยในอนาคตยังกว้างไกล ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่า นักวิเคราะห์ต่างมองว่า รถไร้คนขับและยานยนต์แห่งอนาคตจะมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ส่งให้การประเมินประกันรถยนต์พลิกโฉมใหม่ๆไปตามๆกัน และเมื่อตลาดประกันภัยเปลี่ยนแปลงแบบนี้แล้ว นอกจากการซื้อขายต้องรวดเร็วไว้ก่อน เว็บไซต์บริษัทฯที่ปรึกษาด้านการบริหารชั้นนำของโลก McKinsey & Company Financial Sevicesได้วิเคราะห์เทรนด์ไว้ว่า “Insurance 2030–The impact of AI on the future of insurance” ในบทความบอก 4 แนวโน้มธุรกิจประกันภัยที่จะเกิดขึ้นในปี 2030 ดังต่อไปนี้

พยากรณ์ธุรกิจประกันในยุคอนาคต ปี 2030

1. ช่องทางจำหน่ายประกันที่ครบครัน ในอนาคตการบริการประกันภัยจะเน้น Internet of Thing (IoT)กันมากขึ้น โดยเก็บข้อมูลทุกอย่างที่ใช้ในชีวิตประจำวันจาก Gadget อัจฉริยะทั้งหลายที่มีระบบเซ็นเซอร์ เช่น รองเท้า นาฬิกา และอื่นๆอีกมากมาย เพื่อมาวิเคราะห์การจัดจำหน่ายประกันที่ใช่และเหมาะสมในชีวิตประจำวัน พร้อมกับเสนอขายได้อย่างทันที ตลอดจนส่งบริการได้ Real Time มากขึ้นซึ่งจะเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2030 ข้างหน้า

2. โปรดักซ์ประกันภัยจะเจาะลึกมากยิ่งขึ้น ในปีค.ศ. 2030 ราคาถือว่ายังเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจของผู้ซื้อ แต่จะทำอย่างไรให้การแข่งขันทางราคาไม่ใช่เรื่องหลัก นอกจากนี้คนที่จะซื้อประกันภัยจะซื้อเท่าที่จำเป็นกับการใช้ชีวิต หมายความว่า บริษัทประกันจะต้องมีผลิตภัณฑ์ที่หลายหลายและเจาะจงมากยิ่งขึ้น สามารถใช้ข้อมูลทางสุขภาพเจาะลึกมากขึ้นและมีข้อมูลสุขภาพที่ระบุถึงพันธุกรรมของผู้คนอีกด้วย

3. การเคลมประกันภัยยนต์มีแนวโน้มลดลง เมื่อรถยนต์ยุคใหม่มีการพัฒนามากขึ้นและเพิ่มความสามารถให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่า การเคลมประกันภัยรถยนต์มีโอกาสจะลดน้อยลงตามไปด้วย ด้วยเหตุจึงทำให้บริษัทประกันภัยต้องมีการเบิกเคลมที่ง่ายและเร็วขึ้นกว่าเดิมด้วยระบบ IoT นอกจากนี้ต้องมีระบบตอบโต้อัตโนมัติอย่าง AI ที่เข้ามาดูแลผู้ซื้อประกันภัยกันมากขึ้น และ AI ยังเข้ามาจัดการดูแลกรณีฉุกเฉินตลอดเวลา 24 ชั่วโมง แบบไม่มีวันหยุดใดๆทั้งสิ้้น

พยากรณ์ธุรกิจประกันในยุคอนาคต ปี 2030

4. ระบบเทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในธุรกิจประกันภัย บทความ Insurance 2030-The impact of AI on the future of insurance ระบุว่า เทคโนโลยี AI จะถูกใช้มากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะขั้นตอนการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ประกันภัยให้ง่ายขึ้นมาวิเคราะห์ตลาด ราคาเบี้ย และประกันให้กับลูกค้า เอาเป็นว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่มนุษย์ต้องทำงานร่วมกับปัญญาประดิษฐ์มากขึ้น กลายเป็นทีมงานใหม่ที่เกิดขึ้นและมีประสิทธิภาพในการทำงานกว่าเดิม

บทความทั้งหมดนี้เป็นการพยากรณ์แนวโน้มธุรกิจประกันภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นเพียงแค่การวิเคราะห์คร่าวๆเท่านั้นที่จะเกิดกับธุรกิจประกันภัยรถยนต์เท่านั้น

 

 

ความคิดเห็นของคุณ

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่