Content Creator หรือเรียกชื่อหนึ่งว่า Content Writer เป็นอาชีพที่ไม่ต่างอะไรกับอาชีพฝีมือที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ โดยจำเป็นต้องใช้ภาษาที่สละสลวย เพื่อโน้มน้าวให้ผู้อ่านมีความสนใจและคล้อยตามไปกับงานที่ได้เขียนไว้ ปัจจุบันองค์กรต่าง ๆ ได้ให้ความสำคัญกับ Media Content มากหรือมีการสร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคผ่านช่องทาง Social Media ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Linked In และช่องทางอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ ทำให้อาชีพงานเขียนอย่าง Content Creator ได้รับความนิยมกันมากขึ้น ซึ่งหน้าที่หลักของสายงานนี้คือ การสร้างสรรค์เนื้อหาหรือเรียบเรียงข้อมูล แล้วนำมาเขียนใหม่ให้มีความน่าสนใจและตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่อยากสื่อสารได้มากขึ้น ซึ่งอาชีพนี้ต้องมีการฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าไม่ได้เรียนจบด้านภาษามาโดยตรงก็ตาม หากเพื่อน ๆ คนไหนที่รักงานเขียนหรือสนใจจะทำงานในสายงานนี้ ลองอ่านบทความข้างล่างนี้ดูนะคะ แอดมินมีบทความดี ๆ มาให้อ่านและศึกษาข้อมูลกันค่ะว่าจะเป็นนักเขียนที่ดีนั้นต้องทำอย่างไรบ้าง
ประเภทของ Content Creator
![](https://news.jobcute.com/wp-content/uploads/sites/7/2019/12/tools-for-content-creators-1024x682.jpg)
1. Agency คือบริษัทหรือผู้ที่ได้รับจ้างจากแบรนด์เพื่อผลิตเนื้อหาให้ลูกค้าเจ้าต่าง ๆ ซึ่งระบบการทำงานของเอเจนซีจะแบ่งทีมทำงานออกเป็นดังนี้ คือ Creative, Account Executive และ Planner เป็นต้น โดยสายงานเขียนอยู่ในฝ่าย Creative มีหน้าที่สร้างสรรค์งานเขียนเชิงโฆษณาทั้งแบบข้อความสั้นและบทความขนาดยาว ซึ่งเอเจนซีบางองค์กรเรียกตำแหน่งงานนี้ว่า Copy Writer, Content Writer หรือ Social Media Specialist จนสามารถเติบโตเป็นระดับ Content Editor, Content Manager, Social Media Manager หรือ Online Strategist ได้ หากใครที่อยากทำงานเขียนในเอเจนซี ต้องมีความรู้เรื่องการตลาดเพิ่มเติม เช่น SEO, Branding และ Creative Writing
![](https://news.jobcute.com/wp-content/uploads/sites/7/2019/12/brand-marketing-vs-branding-in-marketing-1-1024x725.jpeg)
2. Branding งานเขียนระหว่างเอเจนซีและแบรนด์มีความแตกต่างตรงที่ฝั่งแบรนด์ไม่ต้องทำงานให้กับลูกค้าหลายเจ้า แต่มีหน้าที่รับผิดชอบงานเขียนเพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ หรือโปรโมทภาพลักษณ์ขององค์กรที่ทำงานอยู่ เป็นต้น ปัจจุบันหลายแบรนด์มีการสร้างทีมงาน Digital Content เพื่อทำการตลาดออนไลน์เองโดยไม่ต้องจ้างเอเจนซี เนื่องจากประหยัดเวลาและสามารถควบคุมงบประมาณได้ ตลอดจนสามารถสื่อสารกับพนักงานในองค์กรเอง โดยใช้เวลาที่น้อยกว่าและเข้าใจความต้องการขององค์กรได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ Content Creator ฝั่งแบรนด์สามารถเติบโตได้ดีมากกว่าในสายงาน PR และ Marketing Manager ได้อีกด้วย
3. สื่อสารมวลชน การทำงานและจุดประสงค์ขององค์กรสื่อมวลชนจะแตกต่างไปจากเอเจนซีและแบรนด์อย่างเห็นได้ชัด โดยการเน้นการผลิต content ที่ให้ความรู้กับสังคมหรือจุดประเด็นให้ผู้อ่านได้คิดวิเคราะห์ ผ่านการนำเสนอในรูปแบบ Editorial Content เช่น บทความ รายงานพิเศษ หรือบทสัมภาษณ์มากกว่าที่จะเป็น Marketing Content เพื่อโปรโมทสินค้า ซึ่งสายงานนี้สามารถเติบโตไปจนถึงระดับ Digital Editor และ Editor-in-Chief ในเว็บไซต์นิตยสารออนไลน์ หรือเว็บข่าวออนไลน์ต่าง ๆ เป็นต้น
ทักษะสำคัญในการเพิ่มเงินเดือน
![](https://news.jobcute.com/wp-content/uploads/sites/7/2019/12/เทคนิคการเขียนบทความ-SEO-เพื่อดัน-Content-ให้เป็นอันดับ-1.jpg)
1. ทักษะ SEO ทักษะนี้จะช่วยให้งานเขียนของคุณติดอันดับการค้นหาในอันดับต้น ๆ ของ Google เมื่อมีการค้นหาด้วย Keyword ที่คนส่วนใหญ่ค้นหาบ่อยในหมวดหมู่ของงานนั้น ๆ โดยบทความต้องใส่ URL ของ Keyword นั้น ๆ ด้วย เมื่อมีคนเข้ามาอ่านกันเยอะ ๆ ทำให้มียอดเข้าชมเว็บไซต์กันมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งทักษะ SEO เป็นทักษะที่นายจ้างมองหาในตัวของนักเขียน เพราะสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการโปรโมทสินค้าหรือบริการของแบรนด์นั่นเอง
![](https://news.jobcute.com/wp-content/uploads/sites/7/2019/12/Thank-you-in-many-languages.jpg)
2. ทักษะทางภาษา งาน Content Creator เป็นสายงานที่ต้องใช้ภาษาโดยตรง ดังนั้นจึงเป็นสายงานที่ต้องการคนที่ใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง ไม่ผิดหลักไวยากรณ์ อย่างไรก็ตาม หากมีทักษะทางภาษาอังกฤษเพิ่มเติมอีกด้วย ก็จะช่วยให้นักเขียนสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้มากขึ้นและเป็นประโยชน์ต่องานเขียน ยิ่งถ้านักเขียนมีทักษะมากเท่าไร จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานมากเท่านั้น ตลอดจนมีแนวโน้มได้เงินเดือนสูงอีกด้วย
![](https://news.jobcute.com/wp-content/uploads/sites/7/2019/12/1_EgbP5ouYaoT7UwcxkV5Diw-1024x683.jpeg)
3. ทักษะการเขียนบล็อกและสร้างเว็บไซต์ งานเขียนทางโซเซียลมีเดีย เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่ จึงควรใช้สื่อออนไลน์เป็นช่องทางเผยแพร่ผลงานของตัวเองและพัฒนางานเขียนไปในตัว ซึ่งสำหรับน้องใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์งานมาก่อนนั้น แอดมินแนะนำใช้เว็บไซต์เป็น Portfolio ประกอบการสมัครงาน ซึ่งปัจจุบันมีหลายเว็บไซต์ที่ให้บริการฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้หากงานเขียนบนเว็บไซต์ได้รับความนิยมและมีคนเข้ามาอ่านกันเยอะ ก็อาจเป็นช่องทางการสร้างรายได้อีกช่องทางหนึ่งหรือต่อยอดเป็นอาชีพเสริมได้อีกด้วย
![](https://news.jobcute.com/wp-content/uploads/sites/7/2019/12/13062557162555_facultyEN_Art-and-Design.jpg)
4. ทักษะด้านการดีไซน์ ทักษะการออกแบบดีไซน์ นับว่าเป็นทักษะที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง ที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการจินตนาการและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพราะปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักจะไม่ชอบอ่านเนื้อหาบทความยาว ๆ แต่ชอบอ่านในรูปแบบของ Info-graphic ที่เข้าใจง่ายมากกว่า แต่หากคุณมีความรู้เรื่องการออกแบบเบื้องต้นแล้ว จะทำให้การสื่อสารการทำงานกับฝ่าย Graphic Designer ได้ชัดเจนกันมากขึ้นและตรงกับสิ่งที่อยากนำเสนออีกด้วย
เป็นอย่างไรบ้างคะ กับสายงานเขียนที่ต้องมีทักษะไม่ต่างไปจากงานฝีมือ ดังนั้นแค่มีใจรักงานเขียนอย่างเดียวก็ไม่เพียงพอ แต่จะต้องประกอบด้วยทักษะต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น เพื่อช่วยให้งานเขียนมีความโดดเด่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยสายงานนี้ต้องหมั่นฝึกเขียนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อโอกาสในการสมัครงานและเรียกเงินเดือนสูง ๆ ได้อีกด้วย