คิดจะเป็นนายหน้าอสังหาฯ ต้องรู้อะไรบ้าง?
ยุคปัจจุบันนี้ต่างก็มีอาชีพมากมายให้เราทั้งหลายได้เลือก อยู่ที่ว่าเราจะยึดอาชีพไหนไว้เป็นหลักเพื่อเป็นอาชีพไว้เพื่อเลี้ยงครอบครัว และอาชีพหนึ่งที่มีความน่าสนใจนั่นก็คือ “นายหน้าอสังหาริมทรัพย์” เพราะอาชีพนี้เป็นอาชีพที่เรียกได้ว่าเหมือนจับเสือมือเปล่า สามารถหาเงินได้อย่างรวดเร็วเป็นกอบเป็นกำ รวยได้จริง สามารถรับเงินก้อนใหญ่สร้างรายได้ ด้วยผลตอบแทนที่สูง และรายได้ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ 3% หรือบางเคสก็อาจจะสูงถึง 10% เลยก็ได้ค่ะ
ตัวอย่างเช่น หากขายบ้านได้ในราคา 3 ล้านบาทตัวแทนนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ จะได้รับผลตอบแทนในจำนวน 90,000บาท และถ้าขายได้ถึง 10 ล้าน จะได้ผลตอบแทนสูงถึง 300,000 บาท ลองคิดดูเล่น ๆ นะคะ ถ้าเราขายได้ทุก ๆ 1-2 เดือน เราก็จะมีรายได้มากกว่าพนักงานประจำถึง10เท่าเลย แถมยังใช้เงินทุนอันแสนน้อยนิดส่วนใหญ่หมดไปกับช่องทางโฆษณา ค่าน้ำมัน ค่าโทรศัพท์ เพื่อติดต่อหาผู้จะซื้อ และมีความเสี่ยงที่ต่ำ ไม่จำเป็นต้องซื้อทรัพย์เป็นเจ้าของทรัพย์เพียงแค่ทำการตลาด เอาทรัพย์ผู้อื่นไปประกาศหาผู้จะซื้อหรือจะขายที่มีความต้องการที่ตรงกัน เพียงแค่นี้ก็สร้างรายได้รับเงินล้านกันไปเลยเพราะเหตุนี้ จึงทำให้อาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์เป็นที่ได้รับความสนใจ เป็นอย่างมาก และจำเป็นที่จะต้องมีความรู้ในเรื่องดังนี้ด้วยนะคะ
1.ต้องรู้จักหาทรัพย์มาขาย สิ่งแรกที่ต้องทำคือหาข้อมูลของทรัพย์เพื่อมาขายสามารถหาได้จากป้ายประกาศ อินเทอร์เน็ต ญาติพี่น้องเพื่อนๆ แต่สำหรับนายหน้ามือใหม่แนะนำให้เริ่มหาจากแหล่งที่ตนเองรู้หรือเชี่ยวชาญก่อนจะดีกว่า เช่นเริ่มจากแถวบ้าน แถวที่ทำงาน เพราะมีความรู้ความชำนาญในพื้นที่นั้น ๆเป็นอย่างดี เริ่มจากทรัพย์เล็ก ๆก่อนเพื่อฝึกฝนความรู้ความสามารถเมื่อชำนาญแล้วค่อยขยับเริ่มจับทรัพย์ใหญ่ เมื่อหาทรัพย์ได้แล้วก็ต้องติดต่อเพื่อตกลงเจรจากับเจ้าของทรัพย์ซึ่งในวงการนายหน้าจะเรียกขั้นนี้ว่า การหา Listing อาจจะต้องมีความพยายามมากสักหน่อยในช่วงแรก เพราะยังไม่มีนักลงทุนที่รู้จักแต่พอทำไปสักพักคุณเริ่มมีเครือข่ายรู้จักนักลงทุนคราวนี้การปิดการขายก็จะไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ
2.รู้จักสร้าง Farming ของตัวเองขึ้นมา คล้ายๆกับการทำฟาร์มเพาะเลี้ยงขึ้นมาเอง ไม่หาทรัพย์แบบสะเปะสะปะ ไม่จำเป็นต้องกำหนด Farmingให้กว้างหรือไกลเกินไป แต่หาในพื้นที่ที่กำหนดไว้เท่านั้น เน้นทำเลที่ดีที่สุดเป็นหลัก คุณต้องติดตาม เฝ้าดูความเคลื่อนไหวอสังหาริมทรัพย์ ในย่านหรือทำเลที่คุณเจาะจงไว้ทุก ๆ วัน และต้องทราบด้วยว่าราคาซื้อขายอยู่ในวงเงินเท่าไร โซนที่สนใจมีหมู่บ้านกี่แห่ง ตึกขนาดเท่าไร ลักษณะใด มีประกาศขายกี่หลัง ขายอยู่ที่เท่าไหร่ ขายได้จริงเท่าไหร่ ที่ดินเปล่าตารางละเท่าไร ราคาประเมินธนาคารเท่าไร ต้องลงลึกแบบรู้ลึกรู้จริงเพื่อได้ List มาอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนการขยาย Farm นั้นจะทำเมื่อไรก็ได้ แต่อย่าเกินกำลังตัวเอง หรือเกินความสามารถที่จะดูแลได้ทั่วถึงเพราะความเชื่อถือของลูกค้าอาจลดลงนั่นเอง
3.รู้จักการทำสัญญาแต่งตั้งนายหน้า สัญญาการแต่งตั้งนายหน้าจะมี 2 แบบคือแบบเปิดและแบบเปิด แนะนำให้ทำแบบปิดจะดีกว่าแบบเปิด เพราะให้สิทธินายหน้าผู้นั้นเพียงผู้เดียวในการขาย โดยระบุในสัญญาสิ้นสุดเมื่อใด เจ้าของก็ไม่เสียสิทธิ์โอกาสที่จะขายเองให้กับบุคคลที่อยู่นอกรายชื่อนายหน้าอสังหาริมทรัพย์หรือตัวแทนอีกด้วย แต่ถ้าแบบเปิดจะใช้นายหน้าหลายคนทำหน้าที่พร้อมกันในการขายอาจเพิ่มโอกาสในการขายได้เร็วขึ้น แต่ปิดโอกาสไม่ให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ขายด้วยตนเอง และไม่จำกัดเวลาต่ออายุไปเรื่อย ทำให้ไม่ค่อยมีนายหน้าอสังหาริมทรัพย์คนไหนทุ่มเทกับการขาย ให้กับสัญญาในลักษณะนี้
4.ช่องทางทำการตลาด การจะเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องมีไอเดียในการขาย รู้จักพูดคุยและมีการเจรจาต่อรอง สามารถบอกข้อดีข้อเสียทำตัวให้น่าเชื่อถือได้ รวมถึงเลือกใช้สื่อให้เป็นประโยชน์ไม่ว่าสื่อออนไลน์หรือออฟไลน์ ป้ายติดประกาศในย่านชุมชนนั้น หรือในเวปไซต์ที่ประกาศซื้อขายบ้าน รวมถึงใช้ช่องทางโซเชียลเพื่อเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย
5.สินเชื่อของสถาบันการเงิน นายหน้าอสังหาริมทรัพย์จำเป็นต้องมีความรู้ เพื่อยื่นกู้ขอสินเชื่อให้กับลูกค้า(ผู้ซื้อ) เพราะการปล่อยสินเชื่อแต่ละสถาบันการเงินจะมีเงื่อนไขแตกต่างกันไป ไม่ใช่ว่าจะเลือกธนาคารไหนก็ได้ นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ต้องมีความรู้ข้อมูลของแต่ละธนาคารเบื้องต้น เช่น ลูกค้ากลุ่มข้าราชการหากขอสินเชื่อกลุ่มแบงค์ของรัฐจะปล่อยออกได้ง่าย เช่นกรุงไทย ออมสิน ธ.ก.ส เพราะส่วนใหญ่ราชการจะมีดิวพิเศษกับหน่วยงานราชการ นั้นๆ อยู่แล้ว ดอกเบี้ยต่ำวงเงินสูง แต่ถ้าลูกค้าฟรีแลนซ์ต้องพิจารณาจากเงินสดส่วนใหญ่นำเข้าธนาคารไหน เพราะแบงค์จะพิจารณาประวัติการเงิน ยึดจากเอกสาร statement นายหน้าจำเป็นต้องคัดกรองเบื้้องต้นแล้วค่อยยื่นเอกสารให้กับธนาคารนั้น ๆ
6.กฎหมายขั้นตอนการทำธุรกรรมสำนักงานที่ดิน พวกเอกสารต่าง ๆ บัตรประชาชน บัตรข้าราชการ สำเนาทะเบียนบ้าน รวมถึงค่าธรรมเนียมการเสียภาษีต่าง ๆ ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายซึ่งใช้ราคาประเมินจากกรมที่ดินเป็นเกณฑ์ ภาษีธุรกิจเฉพาะที่ผู้ขายต้องเสีย ถ้าถือครองไม่ถึง 5ปี หรือโอนชื่อเข้าทะเบียนบ้านไม่ถึง 1 ปีต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% รวมถึงอากรแสตมป์และค่าธรรมเนียมในการโอนควรมีความรู้เบื้องต้นเพื่อแจ้งให้ลูกค้าเตรียมค่าใช้จ่ายเหล่านั้นไว้
และบทความทั้งหมดนี้เป็นความรู้เบื้องต้นที่นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ต้องมีติดตัว และวิธีการทำงานจริง ๆ อาจจะต้องอาศัยไหวพริบและความรู้เฉพาะทางอีกหลายๆ เรื่องที่ต้องเรียนรู้ลองนำมาประยุกต์ใช้ปรับตัวเองดูนะคะ เพราะจะเห็นได้ว่านายหน้าอสังหาริมทรัพย์เป็นได้ไม่ยากเลย แถมยังลงทุนน้อยรายได้ไร้ขีดจำกัดอีกด้วย ถ้าหากจับทรัพย์ดีๆ หลายคนสามารถต่อยอดเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สร้างความั่งคั่งเปลี่ยนชีวิต ตัวเองมานักต่อนัก สามารถที่จะเดินทางท่องเที่ยวได้ตามที่คุณต้องการ เพียงแค่อาศัยความซื่อสัตย์ ไม่ท้อถอย แม้จะโดนปฏิเสธซึ่งก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ทุกคนต่างต้องเจอ แต่ถ้าก้าวผ่านจุดนี้ไปได้ลูกค้า นายทุน เจ้าของทรัพย์ต่างๆ พากันหลงใหลในตัวคุณแน่นอนอย่างแน่นอน