AI ปัญญาประดิษฐ์ สร้าง 5 อาชีพใหม่

ระยะนี้ใคร ๆ ต่างก็ต้องตื่นตระหนกกับกระแส AI หรือปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) กันเสียส่วนใหญ่เพราะ AI จะทำให้คนตกงานเป็นจำนวนมาก แต่ในความเป็นจริง AI จะช่วยให้เกิดงานใหม่ๆ ขึ้น และช่วยให้งานของมนุษย์สะดวกสบายขึ้น แต่เราอาจจะต้องมีการปรับตัว และพัฒนาทักษะของตนเองเพิ่มมากขึ้น เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ที่พัฒนาขึ้นมาให้ทัน รวมถึงผู้ประกอบการที่จะต้องสนับสนุนให้แรงงานได้เรียนรู้พัฒนาความสามารถ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วย
ได้มีรายงานระบุว่า ในปี 2020 แม้ว่า AI จะลดการจ้างงานไป 1.8 ล้านตำแหน่ง แต่ก็สามารถที่จะสร้างงานใหม่ได้ มากกว่า 2.3 ล้านตำแหน่งและคาดว่า AI จะเพิ่มความสามารถของแรงงานและอาจเป็นผู้สร้างงานทั้งหมด
วันนี้ JobCute จะพาไปรู้จักกับ 5 อาชีพที่จะเติบโตขึ้นไปพร้อมๆ กับ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ได้แก่

AI ก่อให้เกิด 5 อาชีพใหม่

1) Data Scientist เรียกกันว่า นักวิทยาศาสตร์ทางด้านข้อมูล

Data Scientist จะทำหน้าที่ในการวิเคราะห์ข้อมูล ทำความเข้าใจพฤติกรรมที่ซับซ้อน หาแนวโน้ม และการค้นหาข้อมูลเชิงลึก ซึ่งจะช่วยให้บริษัทได้ทำการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างชาญฉลาด เราก็สามารถยกตัวอย่างของการใช้ Data Science ได้ดังต่อไปนี้
• Netflix ทำการผลิตภาพยนต์ที่ตรงกับความสนใจของผู้ชม ตามรูปแบบที่วิเคราะห์ได้จากสถิติการชมภาพยนต์ของสมาชิก
• Target ทำการแบ่งกลุ่มลูกค้าและวิเคราะห์พฤติกรรมเฉพาะของลูกค้า เพื่อเป็นแนวทางในการส่งข้อความที่แตกต่างกันในแต่ละกลุ่ม
• Procter & Gamble ใช้แบบจำลอง time-series เพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าในอนาคตที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถวางแผนการผลิตได้อย่างเหมาะสม

2) AI/Machine Learning Engineers หรือเรียกว่า ผู้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์

วิศวกร ML ปกติแล้วจะทำงานร่วมกับ Data Scientist ดังนั้น จึ้งทำให้ตำแหน่งงานนี้มีความต้องการมาก Data Scientist ML engineers จะมีความเชี่ยวชาญด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ และมีทักษะในการเขียนโค้ดที่เก่งมาก แต่ Data Scientist จะเชี่ยวชาญในด้านสถิติและการวิเคราะห์ข้อมูล
สมัยก่อน AI และ Machine Learning จะเป็นการศึกษาวิจัยในมหาวิทยาลัยเป็นส่วนมาก แต่ในปัจจุบันทุกอุตสาหกรรมต้องการประยุกต์ใช้ AI และ Machine Learning ให้เข้ากับงานของตนเองทำให้ปริมาณความต้องการ AI/Machine learning engineers ได้เพิ่มขึ้นสูงมาก อีกอย่างปัจจุบันบริษัทต่างๆ ก็ได้มีการพัฒนาด้าน AI จึงทำให้เกิดความต้องการหาแรงงานที่มีทักษะและความรู้ ทางด้าน AI ต่างๆ เช่น การรู้จำภาพ (Image Recognition), การรู้จำเสียง (Voice Recognition) และ การรักษาความปลอดภัยของไซเบอร์ (Cyber Security) เป็นต้น

AI/Machine Learning Engineers หรือเรียกว่า ผู้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์

3) Data Labeling Professionals

Data labeling professionals คือผู้เชี่ยวชาญทางด้าน label ข้อมูล หรือการระบุชื่อประเภทของข้อมูล
ในยุค AI ที่มีปริมาณข้อมูลมหาศาลและหลายหลายรูปแบบ Data labeler จะกลายเป็นแรงงานหลักที่ต้องการเป็นจำนวนมาก การ Label ข้อมูลเป็นการเตรียมข้อมูลให้ Machine Learning สามารถนำไปใช้ได้ ตัวอย่างเช่นถ้าเราต้องการ เทรนระบบให้รู้จักภาพเครื่องบิน โดยเรามีภาพเป็นล้านภาพซึ่งมีทั้งภาพที่มีเครื่องบินและไม่มีเครื่องบิน เราต้องการคนที่จะมาช่วยในการระบุหรือ label ภาพแต่ละภาพบางส่วนก่อนว่าภาพไหนมีเครื่องบินหรือไม่มี

4) AI Hardware Specialists

AI hardware specialists คือ ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านฮาร์ดแวร์ ซึ่งเป็นอีกแรงงานหลักตามอุตสาหกรรมต่างๆ ในยุค AI เช่นการผลิต GPU chips บริษัทยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยีต่างๆ ก็ได้สร้าง chips เฉพาะของตนเองกันแล้วเช่น Intel ก็ได้สร้าง chip เฉพาะสำหรับงาน Machine Learning ในขณะที่ IBM และ Qualcomm ก็สร้างสถาปัตยกรรมฮาร์ดแวร์ ทีออกแบบสำหรับรันงาน Neural Network เช่นเดียวกับ Facebook ที่ก็ช่วย Qualcomm ในการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้าน Machine Learning จากความต้องการใช้ชิพและฮาร์ดแวร์ของ AI ที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีการเติบโตในด้านอุตสาหกรรมการผลิตที่ทุ่มเทให้กับการสร้างผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ซึ้งทำให้เกิดความต้องการแรงงานทางด้านนี้เป็นอย่างมาก

5) Data Protection Specialists

Data protection specialists หรือ ผู้เชี่ยวชาญในการป้องกันความปลอดภัยของข้อมูล ในอนาคตจะมีความต้องการแรงงานกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของข้อมูลที่มีค่า การเพิ่มขึ้นของ Machine Learning และการเขียนโค้ดการรักษาความปลอดภัยระบบฐานข้อมูล โปรแกรม ฟังก์ชั่นและข้อมูลภายในระบบ จะกลายเป็นสิ่งสำคัญมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเครือข่ายจะเปิดกว้างมากขึ้นเพื่อการเข้าถึงที่กว้างขึ้นโดยเฉพาะจากอินเทอร์เน็ต

เราจะเห็นได้ว่าถึงแม้ AI สามารถใช้เพื่อเพิ่มความเร็วในกระบวนการประจำและมีโอกาสที่จะทำให้คนบางคนตกงานได้ในอนาคต แต่นั่นก็อาจจะเป็นผลกระทบแค่ส่วนน้อย เพราะ AI ก็จะสร้างงานมากกว่าเพราะระบบ AI สามารถนำไปประยุกษ์ใช้กับแวดวงอสังหาริมทรัพย์ เกี่ยวกับ บ้าน และคอนโด ได้อย่างสบาย อย่างเช่น การเปิด-ปิด อุปกรณ์ไฟฟ้าอัตโนมัติผ่าน Smartphone เป็นต้น จะเห็นได้ว่ามนุษย์ยังคงมีความจำเป็นสำหรับกระบวนการวิเคราะห์การจัดและการสรุปข้อสรุป นี่คือเหตุผลที่บทบาทของมนุษย์ในการสร้างการใช้งานและการป้องกัน AI จะมีความสำคัญมากขึ้น AI เป็น เทคโนโลยีนี้กำลังสร้างเครื่องมือเพื่อทำให้ชีวิตง่ายขึ้นและลดความจำเป็นในการปฏิบัติงานของมนุษย์ การฝึกอบรมแรงงานเพื่อเปลี่ยนไปใช้งานใหม่เหล่านี้เป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญและโอกาสสำหรับการเติบโตของงานที่แน่นอน

ความคิดเห็นของคุณ

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่