Passive Income คือ การสร้างรายได้หรือกระแสเงินสดที่มาจากการลงมือในช่วงแรกและสามารถผลิตผลออกมาได้ในระยะยาว เช่น การลงทุนหุ้นเพื่อสร้าง Passive Income จากเงินปันผลและการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่าให้มีรายได้เข้ามาทุกเดือน หนึ่งใน Passive Income ที่สามารถสร้างรายได้นั้น คือ การทำธุรกิจเฟรนไชส์ เป็นการทำลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญา การสร้างแพลตฟอร์มอินเตอร์เน็ตมาร์เก็ตติ้ง ถือว่าเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถทำได้ในยุคดิจิทัล
Passive Income นับว่าเป็นความฝันของใครหลายๆคนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่อยากมีรายได้หลายช่องทาง เราแค่ลงทุนเพียงครั้งเดียวในช่วงแรกๆเท่านั้น แล้วสามารถสร้างรายได้กลับมาให้เราเป็นประจำ เปรียบเสมือนมีเครื่องจักรสร้างเงิน เพื่อไปสร้างรายได้ให้กับเราต่อไป วันนี้ Jobcute มีวิธีที่จะช่วยสร้างรายได้แบบ Passive Income ที่เป็นที่นิยมให้ลองนำไปเลือกลงทุนกัน
1. ลงทุนหุ้น
การลงทุนหุ้น ถือว่าเป็นที่นิยมระดับต้นๆของโลกเลยทีเดียว ในอดีตที่ผ่านมาหลายสิบปี หุ้นถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยได้สูงสุดในระยะยาวและยังมีสภาพคล่องสูงอีกด้วย ซึ่งการลงทุนหุ้นมีอยู่หลากหลายสไตล์ แต่การสร้างรายได้แบบ Passive จากหุ้นที่เหมาะสมที่สุดและไม่ต้องทำอะไรมากมายให้เหนื่อยมากนักอย่างการซื้อขายรายวันหรือ Trader คือ การสร้างปันผลจากหุ้น
หากเราอยากได้เงินปันผลเดือนละ 5,000 บาท หรือ 60,000 ต่อปี เราจะต้องมีเงินต้นอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาท แล้วเลือกหุ้นพื้นฐานดี จ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอที่ประมาณ 6% เราถึงจะมี Passive Income จากเป้าหมายที่เราต้องการได้
2. การปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์
อสังหาริมทรัพย์ นับว่าเป็นสินทรัพย์ประเภทหนึ่งที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ ทุกคนอยากเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์ อยากมีบ้าน มีคอนโดไว้พักอาศัย และหากว่าเป็นเจ้าของจำนวนมากเกินกว่าที่จะไว้เพื่ออยู่อาศัยแล้ว ส่วนที่เหลือสามารถนำไปต่อยอดสร้างกระแสเงินสดให้เข้ามาทุกเดือนได้
อสังหาริมทรัพย์ที่ปล่อยเช่ามากที่สุดในปัจจุบัน คือ บ้าน คอนโด ทาวน์โฮม เป็นต้น ซึ่งรูปแบบของการปล่อยเช่าจะมีทั้งระยะสั้นและระยะยาว อย่างไรก็ตาม การเลือกอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่านั้น ต้องเลือกทำเลโครงการดีๆ ไม่ว่าจะเป็นทำเลติดรถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า สถานที่ทำงาน รวมถึงสถานที่สำคัญต่างๆ นอกจากนี้แบรนด์เจ้าของโครงการ ก็ถือว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะซื้อง่ายขายคล่อง และการมีทีมงานบริหารโครงการนิติบุคคลที่ดีนั้น จะมีความน่าเชื่อถือมากกว่าผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็กซะอีก
3. ซื้อธุรกิจเฟรนไชส์ (Franchise)
ปัจจุบันมีธุรกิจเฟรนไชส์มากมาย หันไปทางไหนก็เจอ เช่น ร้านสะดวกซื้อ Seven-Eleven, แมคโดนัลด์, ร้านกาแฟอเมซอน, เคเอฟซี เป็นต้น โดยที่สามารถสร้างกระแสเงินสดจากธุรกิจเหล่านี้ได้ คือ การซื้อระบบธุรกิจนั่นเอง ดังนั้น เฟรนไชส์เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำธุรกิจ แต่ไม่อยากเริ่มจากศูนย์โดยไม่ต้องเหนื่อยที่จะไปสร้างแบรนด์ใหม่ เพราะกว่าจะมีคนรู้จักแบรนด์ก็ใช้ระยะเวลาอย่างน้อยประมาณ 3 เดือน นอกจากนี้การวางระบบธุรกิจและการทำตลาดไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยสำหรับคนที่เริ่มธุรกิจใหม่ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าระบบธุรกิจเฟรนไชส์จะดี แต่ในเรื่องของกำไรอาจจะไม่ค่อยสูงมากนัก เพราะต้องลงทุนซื้อสิทธิ์และบางแบรนด์ก็ต้องแบ่งกำไรให้กับมาสเตอร์เฟรนไชส์อีกด้วย
4. การทำลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญา
ลิขสิทธิ์ทางปัญญา ถือว่าเป็นทรัพย์สินทางปัญญาเฉพาะบุคคลที่ใช้สมองในการคิดค้นขึ้นมา เช่น การแต่งเพลง การเขียนหนังสือ การวิจัยคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆแล้วไปจดสิทธิบัตรเอาไว้ เมื่อมีคนต้องการใช้สิ่งที่เราสร้างสรรค์ขึ้นมาก็ต้องขอกับเจ้าของสิทธิบัตรก่อน
Jobcute ขอเสนอวิธีการสร้าง Passive Income ด้วยวิธีนี้ หนึ่งในนั้นคือ การทำคลิป VDO ลงใน YouTube หากคลิปวิดีโอที่เราทำมียอด view ถึงจำนวนหนึ่ง ทาง YouTube จะแบ่งค่าโฆษณามาให้กับเจ้าของคลิป เป็นต้น
5. การสร้าง Internet Marketing Platform
ธุรกิจใหม่ที่มาแรงตอนนี้ได้แก่ Amazon, Google, Facebook, YouTube ต่างก็เป็นแพลตฟอร์มอินเตอร์เน็ตมาร์เก็ตติ้งที่มีผู้ใช้บริการมากมายทั่วโลก โดยคนซื้อธุรกิจนี้พวกนี้ไม่จำเป็นต้องคิดหรือผลิตเนื้อหาขึ้นมาเอง ซึ่งสิ่งที่ต้องทำคือ แค่ทำเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นให้เข้าถึงผู้คน น่าดึงดูดและน่าสนใจ นอกจากนี้ยังต้องมีการวางระบบบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยมในการเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าหรือใช้บริการ เมื่อทำได้ดีแล้วก็จะมีสินค้าที่มีกลุ่มเป้าหมายเดียวกับเรามาติดต่อขอลงโฆษณาเช่าพื้นที่ ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีในการสร้าง Passive Income ในยุคนี้ได้
5 ธุรกิจข้างต้นเป็นรูปแบบวิธีการสร้างกระแสเงินให้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแค่ส่วนหนึ่งในการสร้างรายได้เท่านั้น ทั้งนี้ยังมีอีกหลายรูปแบบที่สามารถสร้างกระแสเงินสดหรือรายได้แบบ Passive Income ขึ้นมาได้โดยสามารถทำงานควบคู่กับงานประจำก่อน แล้ววันหนึ่งสามารถสร้างรายได้หรือกระแสเงินสดเข้ามาได้อย่างสม่ำเสมอจนมีรายรับมากกว่ารายจ่ายส่วนตัว ถึงวันนั้นเราก็สามารถสร้างอิสรภาพทางการเงินขึ้นมาได้ด้วยน้ำมือของตนเองเลย