Gen Z คือใครกันนะ?

Gen Z คือ คนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบันที่เกิดหลังจากปี ค.ศ. 1995 หรือปี พ.ศ. 2538 ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่เติบโตมาในท่ามกลางสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่เติบโตในยุคดิจิทัลและมีความสามารถในการใช้งานด้านเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก ตลอดจนสามารถเรียนรู้การใช้งานต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย อย่างไรก็ตามในแง่ของการทำงาน ชาว Gen Z มักจะถูกมองว่าเป็นกลุ่มคนที่เปลี่ยนงานบ่อยและถี่มาก แม้ว่าองค์กรจะมีข้อเสนอเรื่องเงินเดือนหรือโบนัสที่ดีก็ตาม

เจาะลึกไลฟ์สไตล์การทำงานของชาว Gen Z

เมื่อชาว Gen Z ถูกมองว่าไลฟ์สไตล์การทำงานมีการเปลี่ยนงานบ่อยแล้ว วันนี้ทางเว็บไซต์ JobCute ก็เลยจะพาทุกคนไปค้นหาสาเหตุกันว่า ทำไมกลุ่มคน Gen Z ถึงเปลี่ยนงานบ่อยมาก นอกจากเงินเดือนและโบนัสที่ดีแล้ว สวัสดิการแบบไหนที่ชาว Gen Z ต้องการจากองค์กรและยินดีร่วมงานได้ทันที ตลอดจนมีความสุขในการทำงาน จะมีสวัสดิการอะไรบ้างนั้นเราไปดูกันเลยค่ะ

เจาะลึกไลฟ์สไตล์การทำงานของชาว Gen Z
1. ความสมดุลในชีวิตและงาน (Work Life Balance)

ความสมดุลในชีวิตและงาน เป็นปัจจัยสำคัญที่ชาว Gen Z ต้องการจากองค์กรเป็นอย่างมาก เนื่องจากคนกลุ่มนี้จะมีงานอื่น ๆ หรืองานเสริมนอกเหนือจากงานหลักอีกด้วย เช่น ขายของออนไลน์, บล็อกเกอร์, หรือวีล็อคเกอร์ เป็นต้น ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ มีความต้องการเวลายืดหยุ่นในการทำงานเป็นอย่างมาก โดยไม่จำกัดว่าต้องเข้างาน 9 โมง และเลิกงาน 6 โมงเท่านั้น แต่พวกเขาจะเน้นไปในเรื่องของคุณภาพงานที่ทำมากกว่าชั่วโมงนั่นเอง อย่างไรก็ตาม การทำงานแบบลดชั่วโมง ได้รับความนิยมมากในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นที่ได้ทดลองลดชั่วโมงการทำงานจาก 5 วัน เป็น 4 วันต่อสัปดาห์ และผลจากการทดลองในการลดชั่วโมงนี้ พบว่ายอดขายของพนักงานเพิ่มขึ้นถึง 40% เลยทีเดียว ดังนั้น การให้เวลาที่ยืดหยุ่นในการทำงานหรือความสมดุลในชีวิตและงานนั้น จะทำให้งานที่ออกมามีประสิทธิภาพมากขึ้น

เจาะลึกไลฟ์สไตล์การทำงานของชาว Gen Z
2. การทำงานอิสระนอกออฟฟิศ (Remote Working)

ปัจจุบัน การทำงานในรูปแบบของ Remote Working เป็นที่นิยมขึ้นเรื่อย ๆ ในองค์กรรุ่นใหม่ โดยเฉพาะองค์กรด้านเทคโนโลยีที่การทำงานในรูปแบบเดิมไม่สามารถตอบโจทย์ชาวกลุ่ม Gen Z ได้อีกต่อไป เนื่องจากคนกลุ่มนี้สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นตาม Co-working Space ต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งข้อดีของการทำงานในรูปแบบนี้ จะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องต่าง ๆ เช่น ค่าเดินทาง, ค่าอาหาร และค่าแต่งตัว เป็นต้น นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์แก่ชาว Gen Z ได้อีกด้วย โดยอาชีพที่สามารถทำงานนอกออฟฟิศและเป็นที่ต้องการสำหรับชาว Gen Z ได้แก่ Conter Writer, Graphic Designer, Translator หรือที่ปรึกษาการตลาดและกฎหมาย เป็นต้น

เจาะลึกไลฟ์สไตล์การทำงานของชาว Gen Z
3. อบรมเพิ่มทักษะความรู้ (Training and Workshop Courses)

นอกจากเวลาที่ยืดหยุ่นและสถานที่ทำงานแล้ว ชาว Gen Z ยังต้องการให้องค์กรที่ทำงานให้โอกาสในการพัฒนาตัวเองในการทำงาน โดยการให้โอกาสแก่พนักงานใหม่ได้อบรมทำเวิร์กชอปต่าง ๆ เพื่อพัฒนาทักษะเดิมที่มีให้ดีกว่าเดิมและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เนื่องจากลักษณะของชาว Gen Z มีไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่งและชอบอัปเดตเทรนด์  ต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา เมื่อมีองค์กรไหนหยิบยื่นโอกาสให้กับคนกลุ่มนี้ JobCute เชื่อค่ะว่าคนเหล่านี้สามารถพัฒนาตัวเองและขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าได้อย่างมีคุณภาพเลยทีเดียวค่ะ

เจาะลึกไลฟ์สไตล์การทำงานของชาว Gen Z
4. เปิดโอกาสให้แสดงความสามารถ

ด้วยลักษณะนิสัยของชาว Gen Z เป็นกลุ่มคนที่มีความกล้าแสดงออกและมีความมั่นใจสูง ดังนั้นคนกลุ่มนี้ต้องการองค์กรที่เปิดโอกาสให้ตนได้แสดงความคิดเห็น และโชว์ความสามารถของตนเองได้อย่างเต็มที่ โดยชาว Gen Z มีความคิดว่า การแสดงความคิดเห็นหรือความสามารถต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นพนักงานอาวุโสเท่านั้น ซึ่งองค์กรสามารถใช้วิธีให้พนักงานเหล่านั้นแข่งขันหรือประกวดผลงาน เพื่อนำผลงานที่ชนะการประกวดหรือได้รับคะแนนโหวตมากที่สุดเสนอแก่ลูกค้า ซึ่งวิธีนี้สามารถเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานชาว Gen Z กับกลุ่มอื่น ๆ ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นการลดช่องว่างไปในตัวเลยทีเดียว

เจาะลึกไลฟ์สไตล์การทำงานของชาว Gen Z
5. พัฒนาองค์กรด้วยเทคโนโลยี (Technology Driven Business)

ด้วยความที่ชาว Gen Z เติบโตมาในท่ามกลางความเจริญของเทคโนโลยี ทำให้คนกลุ่มนี้ให้ความสนใจเรื่องเทคโนโลยีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีองค์กรไหนที่ใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารเป็นหลัก ชาว Gen Z จะถูกใจและไม่ลังเลที่จะเข้าร่วมงานเลยทีเดียว เนื่องจากการใช้เทคโนโลยีในองค์กรการทำงาน จะช่วยให้การทำงานสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลาและใช้ทรัพยากรกระดาษได้น้อยที่สุด นอกจากนี้ หากสามารถทำงานอิสระนอกออฟฟิศและมีการประชุมทาง Video Conference ก็สามารถช่วยประหยัดในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้อีกด้วย นับว่าถ้าองค์กรไหนมีการทำงานในรูปแบบนี้ ก็จะสามารถดึงดูดพนักงานอย่างชาว Gen Z ได้ดีเลยทีเดียว

จะเห็นได้ว่าไลฟ์สไตล์การทำงานของชาว Gen Z ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินเดือนและโบนัสเพียงอย่างเดียวค่ะ แต่ชาว Gen Z ยังให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพชีวิตอีกด้วย หากองค์กรไหนมีสวัสดิการที่ดีและน่าสนใจสามารถตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ได้ ชาว Gen Z จะตอบรับการเข้าร่วมงานทันทีเลยค่ะ เนื่องจากพวกเขาคิดว่าองค์กรได้ให้ความสำคัญกับพนักงานมากแค่ไหน และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พนักงานทำงานออกมาได้อย่างมีคุณภาพมากที่สุดค่ะ

ความคิดเห็นของคุณ

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่