เผย 10 อาชีพเสี่ยง ถูกเลิกจ้าง ปิดกิจการในปี 62
ยุคของการทำงานในปัจจุบันนั้นเป็นยุคของเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายในหลาย ๆ อย่างให้กับมนุษย์ แต่ก็จะมีผลเสียที่มีผลกระทบต่อมนุษย์โดยตรงด้วยเช่นกัน เพราะเทคโนโลยีเหล่านั้นก็จะเข้าไปแทนที่แรงงานในอุตสาหกรรมของบริษัทหรือองค์กรต่าง ๆ แทนมนุษย์ ทำให้คนตกงานเพิ่มจำนวนมากขึ้น รวมไปถึงผลกระทบที่มาจากเศรษฐกิจภายในประเทศและของโลกอีกด้วย
นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้เปิดเผยเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจในปีหน้าที่อาจส่งผลกับ 10 ธุรกิจ ที่มีอัตราการเติบโตต่ำมาก และมีความเสี่ยงสูงที่จะมีการเลิกจ้างพนักงานเพิ่มเติมในปี 2562นี้ ซึ่งเป็นผลพวงจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี จะมีปัจจัยอะไรกันบ้างนั้นตาม JobCute ไปติดตามกันได้เลยค่ะ
1.ธุรกิจอุตสาหกรรมทีวี ทีวีดิจิทัล เคเบิลทีวี สื่อสิ่งพิมพ์และสำนักพิมพ์ต่างๆ เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้งาน “สื่อออนไลน์” เป็นหลัก ซึ่งส่งผลอย่างมากต่ออุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่างเครือข่ายทีวีและเครือข่ายสำนักพิมพ์ เมื่อผู้คนไม่ต้องการเสพเนื้อหาหรือคอนเทนส์ที่ป้อนให้ แต่จะเป็นผู้หาคอนเทนส์ที่ต้องการเอง อีกทั้งยังกลายเป็นผู้ทำและผลิตคอนเทนส์เองเสียด้วย
2.ธุรกิจผลิตและจำหน่ายหรือการให้เช่า CD DVD เป็นธุรกิจที่เห็นได้ชัดเจน เพราะทุกอย่างเข้ามาอยู่ในโทรศัพท์มือถือหรืออินเตอร์เน็ตหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหนัง ละคร ทั้งไทยและต่างประเทศ ที่สามารถค้นหาได้เพียงคลิ๊กเดียว ไม่ต้องออกเดินทางไปเช่าหรือซื้อ CD/DVD ข้างนอกบ้านให้เสียเวลาอีกด้วย
3.ธุรกิจอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง และปาล์มน้ำมัน จากปัญหาราคายางตกต่ำซึ่งเกิดจากภาวะดีมานต์-ซัพพลาย เนื่องจากประเทศไทยผลิตยางพาราได้มากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ประกอบกับสต๊อกยางเก่าที่เหลือ ส่งผลให้ราคายางลดลงทำให้เกษตรกรขาดทุน อีกทั้งทิศทางราคายางในปี 25662 ยังมีแนวโน้มทรงตัว จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว ส่งผลให้ความต้องการใช้ยางในตลาดโลกลดลง แต่ประเทศผู้ผลิตยางหลายประเทศเพิ่มการผลิตยาง และสต็อกโลกมีปริมาณมากถึง 1 ล้านตัน
4.สถานศึกษาเอกชน ปัจจุบันนักเรียนนักศึกษาต่างหันมาสนใจเรียนทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เพราะมีความสะดวกสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา มีการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ เนื่องจากมีอาจารย์และบุคลาการที่มีชื่อเสียงในด้านต่าง ๆ เปิดคอร์สสอนออนไลน์ นอกจากนี้สถานศึกษารัฐบาลหลายแห่ง ก็ยังเปิดรับนักศึกษาเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งอาจทำให้สถานศึกษาเอกชนกลายเป็นตัวเลือกท้ายๆ ของนักศึกษาในอนาคต
5.ธุรกิจร้านค้าแบบดั้งเดิม เป็นปัญหากันมานานแล้วสำหรับ การแย่งชิงตลาดและลูกค้าระหว่างร้านสะดวกซื้อชื่อดัง กับกลุ่มร้านโชว์ห่วยหรือร้านขายของชำ เพราะร้านสะดวกซื้อนั้นมีการบริการและอำนวยความสะดวกมากกว่าร้านค้าปกติ ทั้งเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง, บริการอุ่นสินค้าก่อนรับประทาน, โปรโมชั่นต่าง ๆ เป็นต้น ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้บริการร้านสะดวกซื้อมากขึ้น
6.ธุรกิจให้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน และธุรกิจร้านอินเทอร์เน็ต ปัจจุบันแทบทุกคนที่ใช้โทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน ที่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างไม่จำกัด อีกทั้งในสถานที่สาธารณะหรือห้างสรรพสินค้ายังมีบริการ wifi ฟรี มีเพียงส่วนน้อยที่จะเลือกใช้บริการโทรศัพท์สาธารณะหรือร้านอินเตอร์เน็ต เพราะทุกคนมีสิ่งนั้นอยู่ในมืออยู่แล้ว
7.ธุรกิจหัตถกรรม และเฟอร์นิเจอร์ไม้ ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่ทำด้วยมือ เป็นสินค้าที่ใช้เวลาทำนาน ต้องอาศัยความอดทนและความตั้งใจของผู้ทำเป็นอย่างมาก จึงถูกมองว่าเป็นสินค้าที่มีคุณค่า ทำให้มีราคาสูง ซึ่งขายยากหากผู้ซื้อไม่ใช่กลุ่มคนที่ชอบหรือเห็นคุณค่าของสินค้านั้นจริง ๆ
8.อุตสาหกรรมสิ่งทอ และเครื่องหนัง แม้ว่าอุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่มและเครื่องหนังในประเทศไทย ยังมีแนวโน้มขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจของคู่ค้า เช่น จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม แต่ผู้ผลิตหรือเจ้าของกิจการมองว่าการผลิตสินค้าในประเทศ ใช้ต้นทุนการจ้างแรงงานสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ในอนาคตอาจมีการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศใกล้เคียง เนื่องจากค่าจ้างแรงงานถูกกว่าประเทศไทยมาก
9.เครือข่ายสาขาสถาบันการเงิน ปัจจุบันหลายธนาคารพยายามที่จะลดจำนวนสาขาลง เพื่อลดค่าใช้จ่ายทั้งด้านพื้นที่และกำลังคน และหันมาผลักดันให้ผู้ใช้บริการใช้ระบบออนไลน์มากขึ้น
10.เครือข่ายห้างสรรพสินค้า สืบเนื่องมาจากการที่ผู้บริโภคหันมาใช้บริการช็อปปิ้งออนไลน์กันมากขึ้น เพราะสะดวก รวดเร็ว สินค้ามีคุณภาพ โดยประเทศไทยยังคว้าอันดับ 1 จากการจัดอันดับประเทศที่ช็อปออนไลน์สูงที่สุดในอาเซียนอีกด้วย
