พูดถึงการสมัครงานสำหรับใครหลายๆ คนแล้ว  ก็ยังคงเป็นเรื่องยากอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นคนที่เพิ่งเรียนจบใหม่ๆ และหางานครั้งแรกหรือจะเป็นคนที่ต้องการเปลี่ยนงานใหม่ก็ตาม โดยอาจจะเป็นเพราะว่ายังไม่รู้ตัวเองว่าจะทำงานอะไรดี หรือไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วตัวเองชอบทำงานอะไร ทำให้อาจจะเลือกงานจากเงินเดือนและสวัสดิการที่จะได้รับจากการทำงาน แต่การดูเพียงสิ่งเหล่านี้อาจจะไม่ตอบโจทย์ชีวิตการทำงานทั้งหมด เพราะปัญหาการทำงานที่ชอบนั้นทำให้หลายคนต้องเปลี่ยนงานกันบ่อย ๆ เลยทีเดียว  วันนี้ Jobcute มีขั้นตอนการหางานและเลือกงานในขั้นพื้นฐานมาฝากกันนะคะ ติดตามได้เลยค่ะ

งานแบบไหนกันที่จะเหมาะกับเรา

  1. เริ่มจากการอ่านประกาศหางานตามช่องทางต่าง ๆ

ใครที่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นหางานอย่างไร การอ่าน ประกาศหางานตามเว็บไซต์ ต่าง ๆ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีค่ะ เพราะปัจจุบันประกาศรับสมัครงานตามหน้าเว็บไซต์จะให้ข้อมูลหลายอย่าง ตั้งแต่ข้อมูลเกี่ยวกับหน้าที่การทำงาน คุณสมบัติที่ต้องการ ไปจนถึงรายละเอียดคร่าวๆ ของบริษัท เช่น เงินเดือนและสวัสดิการ วัฒนธรรมองค์กร แต่ประเด็นหลักก็คือการค้นหาอาชีพตามหน้าเว็บไซต์ที่ลงประกาศหางานอยู่เป็นประจำ จะทำให้เราเจอกับอาชีพใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนและมีความสนใจมากขึ้นได้

นอกจากนี้เมื่อดูข้อมูลจากหลายๆ เว็บไซต์แล้วจะช่วยให้เรารู้และเข้าใจความต้องการของนายจ้างมากขึ้น สามารถนำมาเป็นจุดเริ่มต้นหนึ่งในการเขียนเรซูเม่และ Cover Letter ได้

  1. เขียนทักษะที่มีออกมา

เมื่อเราดูเว็บไซต์ต่าง ๆ ก็จะทำให้เราได้ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่การทำงานมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เราได้ไอเดียว่าทักษะความสามารถที่เรามีตรงกับคุณสมบัติที่บริษัทกำลังตามหาหรือไม่ โดยเขียนออกมาว่าตอนนี้เรามีทักษะและจุดแข็งอะไรบ้าง และเมื่อเทียบกับหน้าเว็บไซต์แล้วยังมีทักษะอะไรที่บ้างที่ขาดหายไป

นอกเหนือไปจากการใส่คิดถึงทักษะให้ตรงกับที่นายจ้างต้องการแล้ว เราควรจะคิดต่อไปด้วยว่าหน้าที่ของตำแหน่งนั้นจะต้องทำงานอะไรบ้าง เช่น หากงานนั้นต้องการคนจัดอีเวนต์ นอกเหนือจากประสบการณ์การทำ อีเวนต์ก็มีเรื่องของทักษะการพูด การสื่อสาร การประสารงานที่เราควรจะใส่ลงไปด้วย เคล็ดลับ ก็คือเราอาจจะลองดูตำแหน่งเดียวกันในหลาย ๆ เว็บไซต์เพื่อนำมาเป็นข้อมูลประกอบ

  1. หาข้อมูลให้มากขึ้น

การลงโฆษณาประกาศงานบางครั้งก็มีข้อจำกัดในเรื่องของการให้ข้อมูลของบริษัท ซึ่งเราสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากหน้าเว็บไซต์ของบริษัทโดยตรงที่มีข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่ยาว ข้อมูลจาก HR และข่าวสารอัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท

  1. ถามจากคนที่มีประสบการณ์

หลังจากรู้แล้วว่าเรามีความสนใจในงานนั้นจริง ๆ ให้ลองหาคนใกล้ตัวที่ทำงานนั้นอยู่หรือหาข้อมูล เฟสบุ๊คกลุ่มศิษย์เก่าสมัยมหาวิทยาลัย เพราะอาจจะมีรุ่นพี่ทำงานอยู่ในแวดวงต่าง ๆ ในเว็บไซต์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประสบการณ์ทำงานหรือสวัสดิการจากการทำงานในที่ต่าง ๆ

  1. อัพเดทการเขียนเรซูเม่ให้ใหม่เสมอ

การเขียนเรซูเม่ใหม่เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ไม่ว่าจะเป็นการหางานครั้งแรกในชีวิตหรือเป็นการมองหางานใหม่ก็ตาม ต้องทำให้คุณสมบัติที่เรามีอยู่ในเรซูเม่เป็นปัจจุบันเสมอ ไม่ว่าจะมีทักษะเพิ่มขึ้นหรือประสบการณ์เพิ่มขึ้นก็ควรอัพเดท เหตุผลก็เพราะงานแต่ละตำแหน่งต้องการคุณสมบัติและประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป โดยการเขียนเรซูเม่ใหม่ควรนำคุณสมบัติที่นายจ้างคาดหวังมาไว้อันดับต้นๆ เพื่อให้ได้รับความสนใจมากที่สุด

ถ้าหากว่ามีงานที่สนใจมากกว่า 1 งานก็ควรจะทำเรซูเม่แยกออกมาเป็น 2 อันโดยให้ ไฮไลต์ตรงส่วนของทักษะและประสบการณ์การทำงานที่แตกต่างกันไป ไม่ควรใช้เรซูเม่ฉบับเดียวสมัครงานไปทุกที่เพราะจะทำให้ดูไม่น่าสนใจ

อัพเดทการเขียนเรซูเม่

  1. ลองซ้อมสัมภาษณ์งาน

เมื่อเตรียมเอกสารสำหรับสมัครงานพร้อมแล้ว ให้ลองคิดไว้ก่อนว่าหากต้องไปสัมภาษณ์งานแล้วแล้วเราจะเล่าเรื่องอย่างไร หลายคนอาจจะคิดว่าหากเรามีประสบการณ์เช่นนั้นจริง ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องเตรียม แต่พอเอาเข้าจริงเราก็จะพูดจาติดขัดได้ หากเราไม่เตรียมข้อมูลมาให้ดีก่อน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงทักษะนั้นในการฝึกงาน การทำงานในมหาวิทยาลัยและที่อื่น ๆ

การหางานที่ใช่และตรงกับกับเราเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้เรื่องเงินเดือนและสวัสดิการเลย บางคนอาจจะรักงานอิสระ ไม่ต้องนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ งานประเภทนี้ก็จะเป็นงานลักษณะของการ ขายบ้าน คอนโด และที่อยู่อาศัย เป็นต้น   ดังนั้น สำหรับคนหางานแล้ว ควรมองหางานที่นอกจากเราจะมีความสามารถตรงกับงานแล้ว ต้องมีช่องทางที่จะทำให้เราได้พัฒนาตัวเองควบคู่กันไปด้วย วิธีการเลือกงานจากทักษะที่เราถนัดและยิ่งเราสามารถหางานที่ตรงกับความสามารถเท่าไหร่ ก็จะทำให้เราทำงานง่ายขึ้นและมีเป้าหมายในการทำงานมากขึ้น

 

ความคิดเห็นของคุณ

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่