สังคมมักเข้าใจว่าคนที่ชอบเข้าสังคมหรือคนกลุ่ม Extrovert มักจะได้เปรียบในด้านการเป็นผู้ประกอบการมากกว่าคนที่มีโลกส่วนตัวสูง (Introvert) เนื่องจากคนชอบเข้าสังคมและรู้สึกดี รู้สึกสบายใจ เมื่อได้พบปะกับผู้คนใหม่ๆ เพราะได้ถือโอกาสในการเจรจาทางธุรกิจได้มากกว่า ในขณะที่คนที่มีโลกส่วนตัวสูงจะมีลักษณะนิสัยชอบความสงบและสันโดษ สบายใจกับการทำงานกับคนในหมู่น้อยมากกว่า จนบางครั้งจะกลายเป็นคนที่เข้าหาคนอื่นได้ยาก
อย่างไรก็ตาม คนที่ชอบเข้าสังคม (Extrovert) จะได้เปรียบกว่าคนกลุ่ม Introvert จริงหรือเปล่านั้น วันนี้ Jobcute เลยมีบทความเกี่ยวกับข้อได้เปรียบของคนทั้งสองกลุ่มไม่ว่าจะเป็น Extrovert หรือ Introvert ว่าใครจะเป็นผู้บริหารหรือผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จมากกว่ากัน มาฝากกันค่ะ เราไปดูกันเลย
ข้อดีของกลุ่มคน Extrovert ต่อการเป็นผู้บริหารหรือผู้ประกอบการ
- สังคมกว้างสามารถหา Partner ได้ดี เนื่องกลุ่มคนประเภทนี้มีสังคมที่กว้างโดยการใช้เวลาในการเจอเพื่อนใหม่และมีความตั้งใจในการขยายสังคมให้กว้างขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะทำให้คนประเภทนี้สามารถชักชวนคนรู้จักเข้ามาทำงานด้วยกัน หรือหาลูกค้า พาร์ตเนอร์ รวมถึงสามารถหาที่ปรึกษาได้ง่ายกว่า
- ทักษะการสื่อสารดี ดึงดูดให้อยากร่วมงานด้วย ด้วยความที่ชอบพูดคุยกับคนใหม่ๆ จึงเป็นเรื่องง่ายในการสื่อสารกับผู้คน เพราะการสื่อสารนับว่าเป็นหัวใจหลักในการช่วยให้ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจได้ ซึ่งความเป็นธรรมชาติในข้อนี้จะเป็นประโยชน์ทั้งในเรื่องของการเป็นผู้นำและการได้รับความเคารพรักจากทีมากขึ้น แม้กระทั่งการสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้าโดยการพูดโน้มน้าวไม่ว่าจะกรณีไหนนั้น ถือว่าเป็นเรื่องง่ายเลยสำหรับกลุ่มคน Extrovert
- ปลุกพลัง สร้างทีมเวิร์ค การทำงานร่วมกันเป็นทีม คนเข้าสังคมจะเก่งกว่าในเรื่องของการประสานงาน เนื่องจากมีประสบการณ์มากกว่าในการทำความเข้าใจความสามารถของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ ทักษะการสร้างพลังให้กับทีมก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจสตาร์อัพที่สมาชิกแต่ละคนในทีมมีการทำงานอย่างใกล้ชิดและต้องสื่อสารกันอย่างสม่ำเสมอ
- เสน่ห์ที่ดึงดูด ใครเห็นก็เอ็นดู ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่บุคลิกที่ทุกคนต้องมีในการสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ แต่ผู้ประกอบการหรือผู้บริหารที่มีเสน่ห์ก็จะช่วยให้ธุรกิจสตาร์ทอัพที่ดำเนินอยู่นั้นปรากฎต่อสายตาสาธารณชนได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ข้อดีของกลุ่มคน Introvert ต่อการเป็นผู้บริหารหรือผู้ประกอบการ
- โฟกัสเรื่องงานเก่ง และทำงานได้อย่าง Productive กลุ่มคนโลกส่วนตัวสูงจะเป็นคนประเภทโฟกัสเรื่องงานและจบงานเป็นเรื่องๆ โดยกลุ่มคนประเภทนี้ไม่ชอบเอาตัวเองไปอยู่กับคนกลุ่มใหญ่ จึงเป็นคนที่มุ่งความสนใจไปในเรื่องที่ตนให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆเท่านั้น
- เรียนรู้ ค้นคว้าอยู่เสมอ ส่วนใหญ่แล้วคนที่มีโลกส่วนตัวสูงมักจะใช้เวลาในการศึกษาข้อมูล เรียนรู้ ลองทำ เพื่อให้ได้ทักษะความรู้ขั้นสูงในเรื่องที่ให้ความสนใจ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะทำให้กลุ่มคนประเภทนี้ผ่านจุดที่ยากที่สุดในการทำงานจนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆไปเลย จึงเป็นเรื่องปกติเลยว่าผู้ก่อตั้งธุรกิจนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเนิร์ดดี้ (nerdy) ที่มีโลกส่วนตัวสูง อย่าง Larry Page ผู้ก่อตั้ง Google, Bill Gates ผู้ก่อตั้ง Microsoft และ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook เป็นต้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ไหวพริบในการบริหารจัดการที่ดีของเจ้าของธุรกิจ คือ การเรียนรู้หาข้อดีของกลุ่มคน Extrovert และ Introvert มาประยุกต์ใช้ในการบริหาร โดยหากคุณเป็นคนที่เงียบ คุณก็ควรที่จะเรียนรู้การเข้าสังคมว่าเขาเก่งในเรื่องอะไร จากนั้นก็จ้างคนประเภทนั้นมาทำงาน เพื่อให้องค์กรมีทักษะที่ครอบคลุมจากคนทั้งสองกลุ่ม
- เอาใจพนักงาน เปรียบเสมือนเป็นเพื่อนสนิท กลุ่มคนโลกส่วนตัวสูง มักจะไม่ค่อยชอบอยู่ในสังคมคนกลุ่มใหญ่และรู้สึกสบายใจมากกว่าที่จะอยู่กับเพื่อนกลุ่มคนสนิท คนเดิมๆเพียงไม่กี่คน ซึ่งพวกเขาจะพยายามรักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทกลุ่มนี้เสมอทั้งกับพนักงานและพาร์ตเนอร์
โดยรวมแล้ว สิ่งสำคัญที่ควรจะจดไว้ในใจนั่นคือ หาได้ยากมากที่จะเจอกับคนบุคลิกที่ไปทางใดทางหนึ่ง 100% แม้แต่คนที่ชอบเข้าสังคมก็ยังมีเวลาเงียบๆที่เป็นส่วนตัว หรือรักสันโดษบ้าง ในบางครั้งก็ชอบอยู่ในบรรยากาศที่มีคนเยอะๆ
นั่นก็หมายความว่า หากรู้จักตัวตนของตนเองแล้ว ก็สามารถฝึกฝนพัฒนาบุคลิกภาพเพื่อให้เสริมตัวตนในอีกด้านที่ยังขาด และแน่นอนว่าธุรกิจของคุณจะประสบความสำเร็จได้หากคุณพยายามอย่างเต็มที่