เจอกันอีกแล้วนะคะกับแอดมินคนสวยประจำ JobCute ที่เมื่อเจอกันเมื่อไหร่ทุก ๆ ท่านก็จะได้สาระความรู้ดี ๆ หรือเทคนิคเกี่ยวกับ งาน ตลอดเลยใช่ไหมล่ะคะ วันนี้จะเป็นเรื่องใดนั้น ลองไปติดตามกันเลยดีกว่าค่ะ
เชื่อไหมล่ะคะหลายๆครั้งที่คุณ ๆ จะต้องเตรียมตัวเพื่อไปสัมภาษณ์เงานแต่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องเตรียมตัวยังไง วันนี้เรามีข้อแนะนำเพื่อเป็นแนวทางสำหรับมือใหม่ว่าควรจะต้องเตรียมตัวอย่างไรให้คนอื่นมองแล้วดูเป็นมืออาชีพมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
เตรียมสคริปท์ให้เป๊ะ
อาชีพนักพูดอย่างพิธีกรยังจำเป็นต้องเตรียมสคริปท์เพื่อจดหัวข้อสำคัญที่ต้องพูดในงานอีเว้นท์ การสัมภาษณ์งานก็เช่นกัน หากคุณไม่อยากพลาดที่จะพูดเรื่องสำคัญต่าง ๆ คุณควรที่จะต้องเตรียมสคริปท์เอาไว้ล่วงหน้าเพราะเอาจริง ๆ เวลาที่คุณนั่งสัมภาษณ์งานนั้น คุณอาจจะมีความตื่นเต้น หรือประหม่าอยู่ก็เป็นได้ เชื่อหรือไม่ค่ะ คนเก่งหลาย ๆ คนต้องตกม้าตายเพียงเพราะไม่สามารถอธิบายสิ่งที่ตัวเองทำเป็นคำพูดได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้พูดออกไปและตอบแบบตะกุกตะกักและดูไม่น่าเชื่อถือ แต่ถ้าคุณทำสคริปท์และท่องจำ คุณจะได้คำพูดที่สละสวยแถมยังครอบคลุมทุกหัวข้อที่คุณอยากจะพูดอีกด้วย ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลังในเรื่องที่ยังไม่ได้พูด
ในทุกการสัมภาษณ์งานคุณจำเป็นต้องแนะนำตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจาก HR Manager หลายท่านไม่มีเวลาอ่านประวัติการทำงานหรือเรซูเม่ของคุณ ดังนั้น เขาจะให้คุณแนะนำตัวเองเพื่อเริ่มต้นการสนทนา คุณอาจจะเริ่มจากการแนะนำชื่อของตัวเอง จบจากสถาบันไหน (บางบริษัทค่อนข้าง concern เรื่องสถาบัน) และไล่เรียงลำดับงานเป็น timeline เริ่มจากงานแรกมายังงานล่าสุดที่คุณทำอยู่ คุณต้องสามารถอธิบายขอบเขตของงานและหน้าที่รับผิดชอบของคุณได้อย่างชัดเจน ตรงประเด็นให้เห็นความสอดคล้องกับงานที่คุณสมัครให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้ให้คุณ List คำถามอื่น ๆ ที่คุณต้องเจอแน่ ๆ เป็นต้นว่า “ทำไมถึงลาออกจากงาน” “ทำไมถึงมาสมัครงานตำแหน่งนี้ที่นี่” “คุณมองเห็นตัวเองในอีก 5 ปีข้างหน้าอย่างไร” “จุดอ่อนหรือจุดแข็งของคุณคืออะไร” ฯลฯ ซึ่งคำถามเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นคำถามยอดฮิตเลยทีเดียว เพื่อให้คุณไม่พลาดที่จะเตรียมคำตอบสำหรับทุกคำถามที่อาจเกิดขึ้นในการสัมภาษณ์งาน
ศึกษาประวัติของบริษัทให้ลึกซึ้ง
คำถามปราบเซียนส่วนใหญ่ที่ HR ใช้วัดความกระตือรือร้นว่าคุณอยากทำงานกับบริษัทนี้จริงหรือไม่ คือ คุณรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับบริษัทของเรา? คุณควรที่จะเตรียมตัวโดยการศึกษาประวัติของบริษัทให้เข้าใจ บริษัทนี้ทำอะไร มีบริษัทแม่อยู่ที่ใด มีแนวโน้มที่จะเติบโตไปในทิศทางไหน แผนกที่คุณสมัครมีความสำคัญต่อองค์กรอย่างไร ตำแหน่งหน้าที่ที่คุณสมัครคืออะไร (Job Description) หากคุณไม่มั่นใจในคำตอบ คุณอาจใช้คำพูดเหล่านี้เพื่อให้คำตอบของคุณดูมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น เช่น
– ผมคิดว่า….
– จากการศึกษาข้อมูลในเบื้องต้น ผมพบว่า……
นอกจากนี้ คุณอาจหาช่องทางในการแทรกคำพูดที่ช่วยขายโปรไฟล์ของคุณ โดยทบทวนว่าตอนนี้บริษัทที่คุณสมัครกำลังหาตำแหน่งใดและคุณจะเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีมหรือบริษัทได้อย่างไร
ในอีเมล์นัดสัมภาษณ์งานมักจะกำหนด dress code ให้ผู้สมัครปฏิบัติตาม หากไม่มีปรากฏ คุณควรยึดหลักปฏิบัติการแต่งกายตามสากลคือ ไม่ใส่รองเท้าแตะ ไม่สวมใส่ยีนส์ที่มีรอยขาด ควรสวมชุดสุภาพ เสื้อเชิ้ตคอปก กางเกงขายาว รองเท้าหุ้มส้ม หากเป็นบริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรแบบนักธุรกิจมาก ๆ ให้คุณสวมสูทผูกเนคไทด้วย การแต่งกายที่ดี จะช่วยเสริมสร้างความประทับใจในแรกพบ พร้อมกับสร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้สวมใส่ขึ้นมาก ในผู้หญิงที่ต้องคำนึงถึงการแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอาง ให้คุณลองสังเกตพนักงานของบริษัทนั้น ๆ ว่าแต่งหน้าโทนสีอย่างไร และในวันสัมภาษณ์ให้คุณเลียนแบบการแต่งหน้านั้นเสมือนว่าคุณได้เข้าไปทำงานที่นั่นเป็นวันแรก
ไปถึงก่อนเวลาสัมภาษณ์งานอย่างน้อย 15 นาที
การมาทำงานสายอาจเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุก ๆ คน แต่การไปสัมภาษณ์งานสายจะเกิดขึ้นไม่ได้เป็นอันขาด HR จะประเมินคุณติดลบทันที เพราะการมาสายจะด้วยเหตุผลอันใดก็แล้วแต่ หมายความว่าคุณไม่มีการเตรียมการหรือวางแผนที่ดี ทางที่ดีคุณต้องศึกษาเส้นทาง และประเมินเวลาที่ใช้ระหว่างเดินทางให้แม่น คุณอาจจะลองไปดูสถานที่จริงก่อนวันสัมภาษณ์งาน เพื่อลดอาการประหม่า และเพื่อไม่ให้ไปสาย ทำไมต้องไปก่อนล่วงหน้า 15 นาที? เป็นเพราะว่าคุณจะได้มีเวลาเตรียมความพร้อมก่อนการสัมภาษณ์จริง เข้าห้องน้ำ หรือจัดเครื่องแต่งกายให้เนี้ยบที่สุด หลังจากลุกลี้ลุกลนในระหว่างการเดินทาง อีกเหตุผลหนึ่งคือบริษัทบางแห่งอาจจะมีเอกสารให้คุณกรอกก่อนการสัมภาษณ์ ถ้าไปถึงก่อนเวลาสัก 15 นาที HR อาจจะเพิ่มคะแนนความตรงต่อเวลาให้คุณอีกก็เป็นได้ พึงระลึกเสมอนะคะว่า ยิ่งถ้าคุณเดินทางไปสมัครงานใน กรุงเทพฯ นั้นก็ยิ่งต้องตรวจสอบเรื่องเส้นทางให้ดีเป็นพิเศษว่าจะต้องเดินทางอย่างไร ต้องเดินทางกับรถไฟฟ้า BTS หรือว่าต้องนั่งวินมอเตอร์ไซค์ แต่สำหรับใครที่อยู่ต่างจังหวัด เช่น ภูเก็ต หัวหิน ก็อาจจะไม่ต้องเผชิญกับปัญหารถติด หรือจราจรหนาแน่น การเดินทางก็อาจจะเร็วหน่อยและก็สะดวกกว่าในกรุงเทพฯ
Practice makes perfect
ฝึก ฝึก และฝึกเท่านั้นที่จะทำให้คุณแข็งแกร่ง! อย่าหวังว่าคุณจะทำดีถ้าคุณใช้เวลาฝึกการสัมภาษณ์งานของตัวเองเพียงไม่กี่นาที กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว คุณเองก็เช่นกัน อาจจะลองโทรหาเพื่อนเพื่อขอให้ช่วยฝึกโดยเป็นกรรมการสัมภาษณ์ คุณจะได้เรียนรู้ข้อดี ข้อเสียของตัวเองเพื่อนำไปปรับปรุงในลำดับต่อไป
มาถึงตรงนี้ทุกคนที่กำลังจะไปสัมภาษณ์งาน หรือน้อง ๆ นักศึกษาจบใหม่ทั้งหลายคงจะลดความตื่นเต้นและความตื่นกลัวไปได้บ้างนะคะ อย่างน้อยก็พอที่จะคาดการณ์ได้ว่าเราจะต้องเตรียมตัวอย่างไร หรือต้องพบเจอกับคำถามอะไรบ้าง แต่อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นนะคะว่าเป็นแค่ไกด์ไลน์ เพราะคุณอาจจะต้องเจอคำถามที่หินกว่านี้หรือว่ากล้วย ๆ ก็อาจจะเป็นได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องพกความมั่นใจ ไปให้อย่างเต็มที่นั้นถือว่าดีที่สุดนะคะ